วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

-๐วันอาสาฬหบูชา๐-

สวัสดีครับ
ขอโทษที่ห่างหายไปนานครับ เนื่องจากไม่มีเวลาจะมาอัพเดท Blogger ของตัวเอง
ที่จริงจะนำเสนอนานแล้ว แต่ไม่มีเวลาเอาซะเลย
ขอเสนอเรื่อง
วันอาสาฬหบูชา ครับ




วันอาสาฬหบูชา คืออะไร ?
เกี่ยวกับวันอาสาฬหบูชา มีดังนี้
- เป็นวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8
- ตามปฏิทินสุริยคติ คือ วันที่ 26 กรกฎาคม ของทุกปี
- พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนาแก่ ปัญจวัคคีย์ ที่มีชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
- ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร มีใจความเกี่ยวกับ อริยสัจ 4
- อริยสัจ 4 คือ ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ได้แก่
1. ทุกข์ คือ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ
2. สมุทัย คือ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์
3. นิโรธ คือ หนทางดับทุกข์
4. มรรค คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
- ปัญจวัคคีย์ ได้แก่ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ อัสสชิ ซึ่งมีจำนวน 5 คน
- พระพุทธเจ้าปฐมเทศนาที่ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ
- โกณฑัญญะได้บรรลุธรรมสำเร็จพระโสดาบันเป็นพระอริยบุคคลแรก
- โกณฑัญญะได้รับประทานเอหิภิกขุอุปสมบทเป็นพระสงฆ์องค์แรกของพระพุทธศาสนา
- พระรัตนตรัยครบองค์สาม ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

เสร็จแล้ววิ่งหนีพัก /ผัวะ!!! (โดนเพื่อนตบ)

วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

History วันละนิด จิตแจ่มใส ๒

History วันละนิด จิตแจ่มใส ๒
ประชาธิปไตยคืออะไร
ประชาธิปไตย คือ ระบอบอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นใน กรีซ
เป็นระบอบที่ใช้กันมากที่สุด เช่น ประเทศไทย ของเราครับ
ชาวกรีซจะปรึกษาที่ลานวงกลมใหญ่ๆ เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาจากประชาชน รับความคิดเห็นของพวกประชาชน นี่เป็นการปฏิบัติแบบประชาธิปไตยนั่นเองครับ

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บทเพลง WAKA WAKA

ทุกคนคงหาเนื้อเพลงประจำฟุตบอล2010ยากใช่ไหม? ผมจะมานำเสนอเนื้องเพลงจริงๆที่ Shakira ร้อง (อ้างอิงจาก http://www.metrolyrics.com/waka-waka-lyrics-shakira.html)
WAKA WAKA
Oooeeeeeeeeeeeeeeeehh

You're a good soldier
Choosing your battles
Pick yourself up
And dust yourself off
Get back in the saddle

You're on the front line
Everyone's watching
You know it's serious
We are getting closer
This isn't over

The pressure is on
You feel it
But you got it all
Believe it

When you fall get up, oh oh
If you fall get up, eh eh
Tsamina mina zangalewa
Cuz this is Africa
Tsamina mina, eh eh
Waka waka, eh eh
Tsamina mina zangalewa
This time for Africa

Listen to your God
This is our motto
Your time to shine
Don't wait in line
Y vamos por todo

People are raising
Their expectations
Go on and feed them
This is your moment
No hesitations

Today's your day
I feel it
You paved the way
Believe it

If you get down get up, oh oh
When you get down get up, eh eh
Tsamina mina zangalewa
This time for Africa
Tsamina mina, eh eh
Waka waka, eh eh
Tsamina mina zangalewa
Anawa a a
Tsamina mina, eh eh
Waka waka, eh eh
Tsamina mina zangalewa
This time for Africa

Awela Majoni Biggie Biggie Mama One A To Zet
Athi sithi LaMajoni Biggie Biggie Mama From East To West
Bathi . . . Waka Waka Ma Eh Eh Waka Waka Ma Eh Eh
Zonke zizwe mazi buye
Cuz this is Africa

Voice: Tsamina mina, Anawa a a
Tsamina mina
Tsamina mina, Anawa a a

Tsamina mina, eh eh
Waka waka, eh eh
Tsamina mina zangalewa
Anawa a a
Tsamina mina, eh eh
Waka waka, eh eh
Tsamina mina zangalewa
This time for Africa

Django eh eh
Django eh eh
Tsamina mina zangalewa
Anawa a a

Django eh eh
Django eh eh
Tsamina mina zangalewa
Anawa a a

(2x) This time for Africa

(2x) We're all Africa
อ่านให้ออกนะเด้อ อังกฤษไม่เก่ง สู้อ่านละกันเนอะ

FIFA CHAMPION 2010

คุณรู้แล้วใช่หรือไม่
ว่า FIFA ใครเป็นแชมป์ 2010
ปลาหมึกพอลเก่งจังเลย SPAIN ได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก
ตามนี้ครับ
ที่ 1 CHAMPION Spain
ที่ 2 Netherland
ที่ 3 Germany
รออีก 4 ปี หมึกพอลเดี้ยง(?) 555+ ขอให้ไม่เดี้ยงนะ
Bye Bye.

History วันละนิด จิตแจ่มใส ๑

ประวัติศาสตร์คืออะไร?
สวัสดีครับทุกๆท่าน เนื่องจากไม่ได้อัพเดทนาน มาเรียนหนังสือกันเถอะ คงรู้ว่าขึ้นชั้นโตๆกัน จะมีวิชาประวัติศาสตร์แทรกเข้ามาในเนื้อหาการเรียนด้วย!!! ประวัติศาสตร์ คืออะไร? มาดูกันครับ

ประวัติศาสตร์ (อังกฤษ: History) คือ การศึกษาประวัติความเป็นมาของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จากการที่ได้บันทึกเก็บไว้ หรือประสบการณ์จากผู้มีอาวุโส

นักประวัติศาสตร์จะ ค้นพบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ เช่น จากบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษร (การเขียนหรือการพิมพ์) เช่น จากบันทึกของเฮโรโดตุส (Herodotus) นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกที่บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในทวีปยุโรปเป็นคนแรกของโลก เป็นต้น หรือเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันโดยปากเปล่า รวมทั้งหลักฐานทางโบราณคดีจากการขุดค้นพบซากสิ่งของต่าง ๆ เช่น สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่มนุษย์รู้จักลายลักษณ์อักษรในยุคหินจะเรียกว่ายุคก่อนประวัติศาสตร์


ทุกคนรู้กันหรือยังครับ ว่าอะไรคือประวัติศาสตร์^^


วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ค้นความหลัง FIFA WORLD CUP ของทุกปี

สวัสดีครับ ขอโทษที่ลบบทความภาษาอังกฤษไป เนื่องจากมีความผิดพลาดบ้าง เช่น อาจแปลไม่ถูก 555+
เห็นคนอื่นๆชอบนำเรื่องฟุตบอลโลกมาเสนอในBloggerทั้งนั้น โดยเฉพาะ นายพอล ปลาหมึกยักษ์ ที่รู้จักกันดี ผมไม่ยอม -*- เลยขอเสนอสิ่งที่เด็กอย่างพวกเราไม่เคยรู้ (หรือรู้แล้ว?) งั้นมาดูกัน ปีเป็น ค.ศ. นะครับ
LOGO FIFA WORLD CUP

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 1 – อุรุกวัย : 1930

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 1 - อุรุกวัย : 1930

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 1 - อุรุกวัย : 1930




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 2 – อิตาลี : 1934

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 2 - อิตาลี : 1934

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 2 - อิตาลี : 1934




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 3 – ฝรั่งเศส : 1938

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 3 - ฝรั่งเศส : 1938

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 3 - ฝรั่งเศส : 1938




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 4 – บราซิล : 1950

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 4 - บราซิล : 1950

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 4 - บราซิล : 1950




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 5 – สวิตเซอร์แลนด์ : 1954

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 5 - สวิตเซอร์แลนด์ : 1954

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 5 - สวิตเซอร์แลนด์ : 1954




โล โก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 6 – สวีเดน : 1958

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 6 - สวีเดน : 1958

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 6 - สวีเดน : 1958




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 7 – ชิลี : 1962

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 7 - ชิลี : 1962

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 7 - ชิลี : 1962




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 8 – อังกฤษ : 1966

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 8 - อังกฤษ : 1966

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 8 - อังกฤษ : 1966




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 9 – เม็กซิโก : 1970

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 9 - เม็กซิโก : 1970

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 9 - เม็กซิโก : 1970




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 10 – เยอรมันตะวันตก : 1974

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 10 - เยอรมันตะวันตก : 1974

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 10 - เยอรมันตะวันตก : 1974




โล โก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 11 – อาร์เจนติน่า : 1978

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 11 - อาร์เจนติน่า : 1978

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 11 - อาร์เจนติน่า : 1978




โล โก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 12 – สเปน : 1982

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 12 - สเปน : 1982

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 12 - สเปน : 1982




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 13 – เม็กซิโก : 1986

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 13 - เม็กซิโก : 1986

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 13 - เม็กซิโก : 1986




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 14 – อิตาลี : 1990

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 14 - อิตาลี : 1990

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 14 - อิตาลี : 1990




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 15 – สหรัฐอเมริกา : 1994

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 15 - สหรัฐอเมริกา : 1994

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 15 - สหรัฐอเมริกา : 1994




โล โก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 16 – ฝรั่งเศส : 1998

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 16 - ฝรั่งเศส : 1998

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 16 - ฝรั่งเศส : 1998




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 17 – เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น : 2002

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 17 - เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น : 2002

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 17 - เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น : 2002




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 18- เยอรมนี : 2006

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 18- เยอรมนี : 2006

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 18- เยอรมนี : 2006




โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 19- สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ : 2010

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 19- สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ : 2010

โลโก้ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 19- สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ : 2010



ซึ่งมองแล้วก็ตกใจเลย ว่าโลโก้ชิ้นแรกมันจะ..ขนาดนี้555+
MASCOT FIFA

World Cup Willie - England 1966

Juanito - Mexico 1970

Tip and Tap - West Germany 1974

Gauchito - Argentina 1978


Naranjito - Spain 1982


Pique - Mexico 1986


Ciao - Italy 1990


Striker,the World Cup Pup - United States 1994


Footix - France 1998


Ato, Kaz and Nik (The Spheriks) - Korea/Japan 2002


Goleo VI - Germany 2006

Zakumi - South Africa 2010


โลโก้ กับ mascot ฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 1930-2010



เรียงแล้วนะครับ อ่านจากซ้ายไปขวา
Mascotมีแค่ปี ค.ศ. 1996 ถึง ปัจจุบัน ครับ
Zakumi เท่สุด!!!!!! จบแล้ว ขอบคุณครับ
อ้างอิงจากกระทู้บอร์ดFacebookครับ^^

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อะไรนะ?? 10 สิ่งปลูกสร้างมหัศจรรย์!!!

10 สิ่งปลูกสร้างมหัศจรรย์
สวัสดีครับ วันนี้วันที่ ๖ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ นะครับ พอดีวันนี้ผมไปเจออะไรน่าสนใจที่เกี่ยวกับ 10 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก บางคนสงสัยว่า จริงๆมันมี 7 สิ่งมหัศจรรย์ไม่ใช่หรือ? เพราะอะไร? ก็เพราะว่า 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ปลูกสร้างกันมานานแล้ว แต่ 10 สิ่งนี้ ไม่กี่ 100 หรือ 200 ปีก่อนเองที่สร้าง แถมยังมีแหวกแนว!!! ซึ่ง 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่หลงเหลือในปัจจุบันมีแค่ มหาพีระมิดแห่งกีซา เท่านั้น อยากรู้แล้วละสิ มาชมกันเลย!!!

แต่นแต้นแต๊น!!!
1. จีน The Tianzi Hotel
โรงแรม ที่นำเทพพระเจ้านำโชค มั่งมีศรีสุข อายุมั่นขวัญยืน หรือเรียกกันว่า ฮก ลก ซิ่ว มาดัดแปลงเป็นอาคารโรงแรม และได้ถูกบันทึกว่า เป็นอาคารที่มองเห็นเป็นรูปภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก




2. เม็กซิโก Nautilus House
เป็น อาคารที่มีรูปทรงเหมือนหอยที่ดูเหมือนจะเป็นบ้าน พัก ข้างในปูด้วยหญ้า และใช้หินวางเป็นทางเดิน แถมยังมีส่วนเว้าส่วนโค้งจนทำดูรู้สึกคับแคบไม่สะดวก สบายเหมาะกะเด็กๆที่จะอยู่กันแค่ 2-3 คนเท่านั้น





3. เบลเยี่ยม Atomium
รูป ทรงเหมือนอะตอมที่ถูกขยายด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งประกอบไปด้วยลูกเหล็กกลม 9 อัน ที่เชื่อมโยงถึงกันหมดด้วยบันไดเลื่อนทุกด้าน มีความสูงอยู่ที่ 335 ฟุต แบ่งเป็นห้องจัดนิทรรศการ หอพักสำหรับเด็กนักเรียน





4. บราซิล Cathedral of Brasilia
โบสถ์ ที่มีขนาดใหญ่ ดูเหมือนมงกุฏ แหลมๆ ตกแต่งด้วยกระจกสี โดยมีส่วนโค้งของคอนกรีตทั้งหมด 16 แท่ง และด้านในนั้นเพดานก็ถูกประดับไปด้วยแก้ว เรียกได้ว่าร้องเพลงเสียงจะเพราะมากเลย





5. ชิลี Errante Guest House
อันนี้พอเห็นปุ๊บ ก็เผลอคิดว่าแผ่นดินไหวตึกถล่ม เป็นการออกแบบให้พื้นดูลาดชัน จนคุณไม่สามารถยืนอยู่บนนั้นได้ อันนี้เรียกว่าสุดจะบรรยายไม่มีคำอธิบายใดๆเพิ่มเติม





6.ออสเตรีย Kunsthaus
ถูก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2003 โดย Peter Cook และ Colin Fournier เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะในออสเตรีย และในเวลากลางคืนที่นี่จะสว่างและโดดเด่นอย่างมาก ดูแล้วเหมือนมอนสเตอร์หนอนน่ารักๆ อย่างบอกไม่ถูก





7.สวิตเซอร์แลนด์ Blur Building
อาคาร หมอก ที่ถูกสร้างยื่นออกไปอยู่บนทะเลสาบ โดยด้านนอกจะมีการฉีดไอน้ำ ประมาณพัดลมไอน้ำรอบๆอาคารอยู่ตลอดเวลา และที่นี่สามารถบรรจุคนได้ถึง 400 คน






8. อเมริกา รัฐมิซซูรี Kansas City Library
ถูกออกแบบให้เหมือนห้องสมุด ที่มีหนังสือตั้งเรียงกันอยู่บนชั้นหนังสือ ถ้าสังเกตดีๆจะมี Lord of the Rings และหนังสือของผู้แต่งเชคสเปียร์โรมิโอ กะ จูเลียส อยู่ด้วย ภายในอาคารไม่ได้ระบุว่าเป้ฯสถานที่ไว้ทำอะไรครับ






9.สหรัฐอเมริกา รัฐเเทกซัส Kettle House
ถูก สร้างมาตั้งแต่ปี 1950 เป็นบ้านทรงกาน้ำ ทำจากเหล็กล้วนๆ โดยแรงบันดาลใจในการสร้างน่าจะมาจากอาชีพที่เจ้าของบ้านทำ ที่ทำบริษัทผลิตถังใส่น้ำมันขาย สภาพก็เลยออกมาอย่างที่เห็น






10. สเปน Casa Batllo
เป็น อีกหนึ่งอาคารในบราเซโลน่า ที่ถูกออกแบบโดย Antoni Gaudi(เกาดี คือชื่อของสถาปนิกดังของโลก) เป็นบ้านที่ดูสยองนิดนึง เพราะมันถูกสร้างมาให้เหมือนกระดูก และทำพื้นผิวอาคารให้ดูหยาบดูแล้วสยองคล้ายผิวของสัตว์เลื้อยคลาน ไม่ค่อยน่าอยู่แต่สวยมากเลย





ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากบอร์ด Dek-D ครับ

เป็นอย่างไร! อึ้งละสิ..






วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

มันมีจริงหรือ?? ธาตุโอเลเกาคอส

แร่ธาตุโอเลเกาคอส
เคยได้ยินแร่ธาตุมหันตภัยล้างโลกอย่าง โอเลเกาคอส บ้างหรือไม่?

สงสัยละสิ คุณคงเคยดูอนิเมชั่นดังทั่วโลกอย่าง Yu-gi-oh คืนชีพมังกรล้างโลก มาบ้างแล้ว มีแต่คนถามว่า เจ้า โอเลเกาคอส ที่มันเป็นแร่ธาตุล้างโลกแห่งแอตแลนติสมีด้วยหรือ?(ส่วนใหญ่มีแต่ถามว่ามีการ์ดชื่อโอเลเกาคอสอยู่หรือไม่?ทั้งนั้น - -") ที่จริงแล้วมันก็คือแร่ธาตุในจินตนาการชนิดหนึ่งนั่นเองครับ^^ :

โอริคัลคุม (อังกฤษ: Orichalcum) หรือ โอริคัลคอส เป็นคำศัพท์ภาษาละตินมาจากภาษากรีกทองเหลือง สาเหตุที่โอริคัลคุมหรือทองเหลืองกลายเป็นชื่อโลหะในตำนาน อันเนื่องจากวิทยาการในยุดสำริด ทองเหลืองถือเป็นโลหะที่แข็งแกร่งที่สุดในขณะนั้น และข้อความบันทึกในเอกสารต่าง ๆ ถูกเขียนด้วยภาษากรีกและภาษาลาติน เมื่อเวลาผ่านไปชื่อของโอริคัลคุมจึงถูกจดจำในความหมายของโลหะชนิดหนึ่งที่ มีความแข็งแกร่งมาก ορείχαλκος (โอริคัลคอส) ซึ่งแปลว่า

ในเกมดราก้อนเควสต์ แร่โอริคัลคุม (หนังสือบางเล่มเขียนทับศัพท์จากภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่า โอริฮารูกอน (ญี่ปุ่น: オリハルコン Oriharukon ?)) เป็นแร่ที่ใช้ทำอาวุธของกลุ่มพระเอกปรากฏในช่วงท้ายเกม อาวุธที่ทำจากแร่นี้มีสีทองหรือสีเหลือง ใน เกมดราก้อนเควสต์ 3 ดาบที่ใช้ปราบหัวหน้าใหญ่โซม่า เป็นดาบที่ทำจากโอริคัลคุม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/wiki/หน้าหลัก ครับ

หวังว่าคงหายสงสัยแล้ว ถ้ายังไม่หายไปขุดหาแร่นี้เอาเอง(ขุดเท่าไหร่ก็ไม่มี 5555555๕๕๕๕๕๕+++)