วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Update! Settakit's Blog Season ?.5 !

Update! Settakit's Blog Season ?.5 !

ไอ้หย๊า! Blog อัพเดทใหม่ เป็น Season ?.5 ! (เพราะ Blog นี้มีอายุ ครึ่งปี ) ฮาดี


Update! Season ?.5 !

"เพิ่มหน้าเว็บ Index. ขี้นมา"

1. ลองคลิ๊กเข้าคำว่า " Index. " ที่อยู่บนหัว Blog ดูสิ!

2. จะมีข้อความต้อนรับต่างๆ พร้อม Slide ที่ทำได้ใน www.slide.com (เปิดชม Slide กดที่ภาพ Slide เลย!)

"เปลี่ยนชื่อ Blog"

ลองไปดูเดี๋ยวก็เห็นเด้อ (เอาภาพลงได้นะ แต่ชอบมีปัญหา เช่น กด Small มันกลายเป็น Big มั่ง)

ไว้อัพเดท Season คราวหน้าจะสรรหามาให้เยอะกว่าเดิมครับ



วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เสด็จฯเยี่ยมถึงที่ 'พระเทพ' ซับน้ำตาพสกนิกร

กทม.สู้น้ำหนุน วันที่26-29ตค. ภาคกลางยังจม สมิทธชี้ลานีญา ทำฝนถล่มหนัก ฉะศูนย์ภัยพิบัติ




สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี ประทับบนรถยีเอ็มซี เสด็จฯทรงเยี่ยมราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมในเขตเทศบาลตำบลท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 ต.ค.

สมเด็จ พระเทพฯ เสด็จฯ ทรงเยี่ยมราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมโคราชและทรงมอบถุงยังชีพช่วยเหลือ ส่วนที่เมืองกรุงเก่า ทูลกระหม่อมหญิงฯ เสด็จฯ ประทานถุงยังชีพ ยังความปลาบปลื้มแก่หมู่พสกนิกรเป็นอย่างมาก ด้านภัยน้ำทะลักยังหนักหลายจังหวัดทั้งภาคกลาง-อีสาน ยอดผู้เสียชีวิตขยับจ่อ 50 ศพ 'สมิทธ' จวกศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ และหน่วยงานภาครัฐทำงานไร้ประสิทธิภาพ ชี้ 'ลานีญา' ต้นตอฝนถล่มไทยมากผิดปกติจนจมบาดาล

-พระเทพฯเสด็จฯโคราช

เมื่อ เวลาประมาณ 08.30 น. วันที่ 25 ต.ค. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเสด็จพระราชดำเนินด้วยรถยนต์พระที่นั่งจากวังสระปทุมไปกองบัญชาการกองทัพ อากาศ ดอน เมือง และประทับเครื่องบินพระที่นั่ง ซึ่งกอง ทัพอากาศจัดถวาย เสด็จฯไปยังจ.นครราชสีมา

เวลา 09.00 น. เครื่องบินพระที่นั่งถึงกองบิน 1 กองพลบินที่ 2 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ จ.นครราชสีมา จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับรถยนต์บรรทุกขนาดเล็กของกองพลทหารราบที่ 3 เสด็จฯเยี่ยมราษฎรที่ประสบอุทกภัยในเขตเทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ โดยมีนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กราบบังคมทูลถวายรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบ นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กราบบังคมทูลถวายรายงานสถานการณ์น้ำ และพ.ญ.สุวรรณี วีระพรพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กราบบังคมทูลถวายราย งานการกู้โรงพยาบาล ตามพระราชดำริฯ จากนั้นพระราชทานถุงยังชีพแก่ตัวแทนราษฎรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ

-ทูลกระหม่อมทรงช่วยอยุธยา

วัน เดียวกัน ที่หอประชุมสนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปประ ทานถุงยังชีพพระราชทานแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในอยุธยา จำนวน 1,000 ถุง ยังความปลื้มปีติในหมู่พสกนิกรชาวอยุธยาเป็นอย่างมาก

-เร่งเสริมคันกั้นน้ำนนทบุรี

ส่วน สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคกลางและตะวันออกเฉียงเหนือ เวลา 09.00 น. ที่มัสยิดท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.ปาก เกร็ด จ.นนทบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิ บัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ รวมทั้งนายทศพล เพ็งส้ม และนายณรงค์ จันทนดิศฐ ส.ส.นนทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมและมอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชน โดยนายกฯ ได้เดินลุยน้ำท่วมที่สูงประมาณหัวเข่าตั้งแต่ปากทางเข้าไปจนถึงมัสยิดท่าอิฐ

นาย วิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าฯ นนทบุรี สรุปสถานการณ์ว่า ขณะนี้ประชาชนในจ.นนทบุรีได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รวม 6 อำเภอ ประมาณ 5 หมื่นครัวเรือน ส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองหลักที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำ เจ้าพระยา ล่าสุดแนวคันกั้นน้ำที่ทางจังหวัดร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำขึ้น ไม่อาจต้านทานน้ำทะเลหนุนสูงเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมาได้ จึงจำเป็นต้องเสริมแนวคันกั้นน้ำอีก จนถึงวันนี้ใช้งบทดรองจ่ายของจังหวัดไปแล้ว 48 ล้านบาทจากวงเงิน 50 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องขอขยายกรอบวงเงินเพิ่มเติม อีกทั้งอยากขอให้ครม.ช่วยผ่อนปรนกฎระเบียบจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น เรือ สุขาลอยน้ำ

ต่อมา นายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะลงเรือตำรวจน้ำ ตรวจสภาพพื้นที่และบ้านเรือนของประชา ชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้า พระยา ใช้เวลาราว 30 นาทีแล้วไปขึ้นฝั่งที่ท่ากระทรวงพาณิชย์

-กทม.วอนอย่าตื่นตระหนก

เวลา 09.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือสาทร เขตสาทร ซึ่งวันนี้น้ำทะเลหนุนสูงสุดในเวลา 08.45 น. ที่ระดับ 1.97 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางบริเวณปากคลองตลาด และลดระดับลงมาเรื่อยๆ ส่วนปริมาณน้ำเหนือที่ปล่อยจากท้ายเขื่อนผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 4,573 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

การคาดการณ์ปริมาณน้ำในวันที่ 26 ต.ค. น้ำจะขึ้นสูงสุดในเวลา 09.09 น. หากน้ำที่ปล่อยลงมาไม่เกิน 4,500 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำน่าจะอยู่ที่ 2.20-2.30 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งกทม.มั่นใจว่ารับมือได้ เนื่อง จากคันกั้นน้ำที่สร้างขึ้นมีความสูง 2.50 เมตร จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่อาจป้องกันไม่ได้ทั้งหมด อาจมีชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่กทม.พร้อมบรรเทาปัญหาให้ประชาชนเต็มที่

เวลา 11.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลงพื้นที่ท่าเรือศิริราชเพื่อตรวจสอบคันกั้นน้ำให้แน่ใจว่าน้ำจะไม่ทะลัก เข้าพื้นที่ โดยบริเวณโรงพยาบาลศิริราชคันกั้นจะสูง 2.80 เมตร จึงมั่นใจว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ในพื้นที่เขตพระราชฐานในพื้นที่อื่นๆ ก็เตรียมการป้องกันไว้อย่างดีแล้ว

"ผม มีความชื่นชมเจ้าหน้าที่กทม. ทุกคนที่ร่วมปฏิบัติงานเต็มที่ เพื่อลดผลกระทบและบรรเทาปัญหาให้ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง จึงขอให้ชาวกรุงเทพฯ อย่าตื่นตระหนก" ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

-รับมือน้ำหนุน 26-29 ต.ค.

พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น. แถลงว่า หลายคนคงวิตกกังวล เหตุน้ำท่วมในกทม. เนื่องจากช่วงวันที่ 26-29 ต.ค.นี้ น้ำทะเลจะหนุนมากที่สุด ซึ่งทางผู้ว่าฯ กทม. ได้นำกระ สอบทรายไปเสริมตามพื้นที่ชุมชนต่างๆ บริเวณโดยรอบแม่น้ำเจ้าพระยาและทำสะพานไม้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ได้กำชับถึงเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะการจราจร เพราะถนนริมแม่น้ำเจ้าพระยาอาจได้รับผลกระทบ

"จุด ที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ถนนศรี อยุธยา บริเวณแยกพญาไท ถนนรัชดาฯ ซึ่งหากน้ำเอ่อล้นคลองน้ำแก้วอาจจะทำให้ท่วมเอ่อล้นเส้นรัชดาฯ ได้ และถนนศรีนครินทร์ซึ่งมีการซ่อมแซมทางอยู่" พล.ต.ต.ภาณุ ระบุ

-น้ำทะลักตลาดเมืองปทุม

ที่ จ.ปทุมธานี เวลา 09.30 น. บริเวณภายใน ตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี ต.บางปรอก อ.เมือง ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เกิดเหตุกระสอบทรายที่วางเป็นแนวกั้นน้ำยาว 10 เมตร สูง 1.50 เมตร พังทลายลงมาเป็นเหตุให้น้ำไหลเข้าท่วมตลาดสูงประมาณ 1 เมตร ความเสียหายเบื้องต้นพบว่าร้านจำหน่ายสินค้าราว 100 ร้านเสียหายทั้งหมด เนื่องจากไม่สามารถที่จะตั้งตัวรับน้ำได้ทัน

เวลา 10.00 น. คณะของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางตรวจสภาพพื้นที่น้ำท่วม ในเขตจ.ปทุมธานี โดยเดินลุยน้ำเข้าตรวจเยี่ยมพระสงฆ์และชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำ บริเวณวัดสองพี่น้องและบ้านเรือน ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก พร้อมทั้งแจกข้าวของยังชีพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในจ.ปทุมธานี ขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย แต่ยังถือว่ายังรับมือไหว เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต่างเฝ้าดูระดับน้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด พร้อมกับตั้งแนวกระสอบทรายและคั้นดินเสริมเพิ่มเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วม ขณะที่กรมชล ประทานประสานงานกับทางการท้องถิ่นแจ้งว่ามีการชะลอการระบายน้ำ เนื่องจากในวันที่ 25-27 ต.ค.นี้ เป็นช่วงเวลาน้ำทะเลหนุน

ถนนขาด - ถนน สาย 3502 บ้านสระบัวก่ำ-บ้านดอนไร่ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ถูกกระแสน้ำที่ระบายออกมาจากเขื่อนกระเสียวพัดจนขาด ต้องปิดการสัญจร เมื่อวันที่ 25 ต.ค.



-'ปู่จิ้น'คิดขุด'เจ้าพระยา 2'

นาย ธานี สามารถกิจ ผวจ.ปทุมธานี ราย งานข้อมูลกับนายชวรัตน์ว่า ขณะนี้ชาวปทุม ธานีได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมกว่า 1 หมื่นครัวเรือน แต่มั่นใจว่าจะรับมือได้หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม ทั้งนี้ปัญหาเกิดจากผลกระทบต่อเนื่องจากจ.นครราชสีมา แต่ปทุมธานีมีระบบคันกั้นน้ำที่ดี สถานการณ์ตัวเมืองชั้นในน้ำยังไม่ไหลเข้า เพราะมีพื้นที่บางส่วนรับน้ำเอาไว้เพื่อรักษาพื้นที่ส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงต้องตอบแทนชาวบ้านในพื้นที่เหล่านี้ที่เสียสละด้วยการเข้าไป ฟื้นฟูและทำความสะอาดหลังน้ำลด ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่คาดว่าจะขึ้นสูงสุดวันที่ 27 ต.ค. ซึ่งน้ำจะไหลมาจากประตูน้ำบางไทร เข้ามายังปทุมธานี ทางจังหวัดจะใช้ความพยา ยามสูงสุดไม่ให้น้ำไหลเข้ากทม.

ด้านนายชวรัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังน้ำลดรัฐบาลต้องวางแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบ โดยกระทรวงมหาดไทยจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษา เพราะเห็นว่าเรื่องน้ำท่วมเป็นปัญหาระดับชาติและยังเห็นด้วยกับแนวคิดของนาย สมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ที่จะทำแม่น้ำเจ้าพระยาสอง เพื่อเป็นจุดระบายน้ำเพิ่มเติม ขณะเดียวกันแนวคิดการขยายคลองรพีพัฒน์ ถือเป็นโครงการระดับชาติที่ต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา

-ประตูระบายน้ำรังสิตล้น

ส่วน ยอดความเสียหายความเดือดร้อน มีบ้านเรือนประชาชนในปทุมธานีถูกน้ำท่วมเสียหาย 13,197 หลังคาเรือน รวม 42,197 ราย พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 23,627 ไร่ สถานที่ราชการเป็นสถานีอนามัย 6 แห่ง, โรง เรียน 32 แห่ง, วัด 23 แห่ง, ประชากรเจ็บป่วย 2,279 ราย, เสียชีวิต 1 ราย ล่าสุด วางแผนป้องกันสถานการณ์เฉพาะหน้าโดยดำเนินการตั้งคันกั้นน้ำสูงกว่า 3 เมตร และหากระดับน้ำสูงขึ้นอีก จำเป็นต้องเสริมคันป้องกันน้ำให้สูงขึ้นอีก 30 ซ.ม. เป็นระยะทาง 32 ก.ม.

เวลา 15.00 น. ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองรังสิต จ.ปทุมธานี ช่วยกันกรอกกระสอบทรายกั้นน้ำที่ล้นจากประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ด้านหลังตลาดรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี ซึ่งเป็นประตูกั้นน้ำระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านลงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ หลังจากมีปริมาณน้ำเข้ามาในคลองรังสิตประยูรศักดิ์เพิ่มมากขึ้น ทำให้น้ำล้นจากประตูระบายน้ำดังกล่าว ชาวบ้านเกรงว่าปริมาณน้ำจะท่วมเข้าตลาดรังสิตและบ้านเรือนประชาชนจึงใช้วิธี การกั้นกระสอบทรายอย่างเร่งด่วน

-ชุมชน'กรุงเก่า'จมบาดาล

ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวแจ้งว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อยขึ้นสูงกว่า 1 เมตร ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมในบริเวณตลาดบ้านแพน อ.เสนา ซึ่งเป็นตลาดในเขตเทศบาลเมืองเสนา ด้านชาวชุมชนวัดพระญาติ ม.5 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 1,000 ครอบครัวกำลังได้รับความเดือดร้อนถูกน้ำท่วมสูง 1 เมตร การเดินทางเข้าออกไม่สะดวก เนื่องจากไม่มีเรือ ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ที่รับผิดชอบ ขอเรียกร้องให้เทศบาลสร้างสะพานไม้ จากปากทางวัดพระญาติไปสู่ชุมชนโดยด่วน

เวลา 12.00 น. หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจเร่งช่วยเหลือหญิงชรากระโดดน้ำฆ่าตัวตายจาก สะพานปรีดีธำรงลงแม่น้ำป่าสัก โดยพบร่างลอยคอเกาะขอนไม้อยู่กลางแม่น้ำตรงจุดบรรจบของแม่น้ำป่าสักและแม่ น้ำเจ้าพระยา ห่างจาก สะพานปรีดีฯ 700 เมตร เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำหญิงชราขึ้นเรืออย่างทุลักทุเล จากนั้นนำตัวส่งไปที่ร.พ. พระนครศรีอยุธยา อย่างเร่งด่วน ทราบชื่อต่อมา นางสมคิด แสงเปี่ยม อายุ 70 ปี บ้านอยู่ 71/8 ม.1 ต.ประตูชัย ซึ่งบ้านอยู่ริมน้ำและโดนน้ำท่วมหนักแต่ปรากฏว่าไม่ได้รับการเหลียวแล จึงเกิดความน้อยใจคิดหนักอยู่ 3 วัน และตัดสินใจใช้ไม้เท้าเดินลุยน้ำออกจากบ้านมาที่สะพานปรีดีธำรงและกระโดดลง ไป

-'น้ำเสีย'ท่วมบ้านประชาชน

จ.ต.สมประสงค์ ปิ่นสุวรรณ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 /5 ม.8 ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า เมื่อเช้าขณะกำลังลุยน้ำเข้าบ้านพักเพื่อเข้าเยี่ยมญาติในบ้านพัก ที่ถูกน้ำท่วม 2 เมตร ต้องผงะพบจระเข้ขนาดความยาวประมาณ 3 เมตร นอนเกยอยู่บนรั้วบ้านใต้ต้นมะม่วงกระโดดลงน้ำไป ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านพบเห็นแล้วหลายครั้งจนพากันหวาดผวาไม่กล้าลงน้ำ อยากให้มีเจ้าหน้าที่จับกุมจระเข้ตัวดังกล่าวเพราะเกรงจะทำอันตรายเด็กและ ชาวบ้าน

นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า อ.ท่าเรือ อ.คลองหลวง อ.บาง ปะหัน กำลังประสบปัญหาน้ำเสียที่มีการปนเปื้อนจากโรงงานอุตสาหกรรมไหลออกมารวมกับ น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน สังเกตได้ว่ามีปลาเริ่มลอยตายจำนวนมาก นายกฯ ลงมาเยี่ยมพื้นที่ก็ไม่ได้นำหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเข้าดูปัญหาดังกล่าว ส่วนรมว.อุตสาหกรรมซึ่งเป็นผู้ รับผิดชอบโดยตรงก็ยังไม่เคยเข้ามาตรวจสอบ ขอให้รัฐบาลเร่งจัดสรรงบฯ ให้กับหน่วยงานในท้องที่เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ไม่ใช่มารอแก้ไขหลักเกณฑ์ เพราะวันนี้ประชาชนจะตายอยู่แล้ว

-สุพรรณฯประกาศภัยพิบัติ

ที่ จ.สุพรรณบุรี นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด เปิดเผยว่าขณะนี้พื้นที่สุพรรณ บุรี ประกาศเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติแล้วเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งแรกประกาศช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เดือนตุลาคม

"จุดที่ได้รับความเสียหายจำนวนมากจะเป็นบ้านเรือน ประชาชนและพื้นที่การเกษตร สำหรับพื้นที่สถานที่ท่องเที่ยวของสุพรรณบุรีอย่างบึง ฉวาก ตลาด 100 ปีสามชุก ตลาดเก่าศรีประจันต์ ยังไม่ได้รับผลกระทบมาก จะหนักสุดก็คือตลาดเก้าห้อง ซึ่งพื้นที่น่าห่วงที่สุดขณะนี้มีที่อำเภอหนองหญ้าไซ อำเภอเดิมบางนางบวช และพื้นที่อำเภอสามชุก ที่มีการระบายน้ำจากเขื่อนกระเสียวลงมา เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนกระเสียวยังคงมีปริมาณน้ำสูงกว่าที่กำหนด เพราะเขื่อนกระเสียวรับน้ำมาจากจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งจำเป็นต้องระบายน้ำออกมาทางห้วยกระเสียวและบ้านโคกยายเกตุ แรงน้ำที่ไหลลงมาส่งผลให้ทางหลวงหมายเลข 3502 บ้านสระบัวก่ำ-บ้านดอนไร่ ท้องที่อำเภอหนองหญ้าไซ น้ำท่วมสูง 20 ซ.ม. ที่ ก.ม. 17-19 ส่งผลให้ถนนขาด" นายสมศักย์ ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า น้ำในแม่น้ำท่าจีนไหลเข้าท่วมตลาดน้ำคูเมืองโบราณสุพรรณบุรี ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ตรงข้ามวัดแคแล้ว ทำให้ผู้ค้าต้องอพยพหนีน้ำชุลมุน และน้ำในแม่น้ำท่าจีนยังทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนริมแม่น้ำท่าจีน

-ท่วมเละ'วัดไชโยวรวิหาร'

ที่ จ.อ่างทอง ผลสืบเนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มระดับสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดแรงดันน้ำกัดเซาะชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นฐานรากของพนังเขื่อนคอนกรีตริมฝั่งแม่น้ำจนเป็นโพรง และน้ำได้ไหลท่วมขังวัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย และบ้านเรือนใกล้เคียง วัดจึงประสานขอกำลังทหารจากกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ มาสร้างแนวคันกั้นน้ำป้อง กันสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานพระมหาพุทธพิมพ์ และรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)



ใน เขตอ.เมืองอ่างทอง กระแสน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นคันดินในหมู่ที่ 7 ต.โพสะ ไหลบ่าท่วมขังถนนสาย 309 อ่างทอง-อยุธยา ระยะทางยาว 200 เมตร เบื้องต้นรถยังสัญจรได้ เทศบาลตำบลโพสะได้สร้างคันดินกั้นน้ำพร้อมปักป้ายเตือนภัย และป้องกันไม่ให้น้ำไหลบ่าไปยังเขตเทศบาลเมืองอ่างทอง ต.หัวไผ่ ต.สายทอง ต.บางปลากด

ชาวบ้านที่ประสบภัยทั้ง 7 อำเภอ จำนวน 55 ตำบล 269 หมู่บ้าน 3,786 ครัวเรือน เดือดร้อน 8,855 คน ซึ่งพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมหนักได้ร้องขอเรือจากหน่วยงานภาครัฐมากที่สุด เพราะเป็นพาหนะเดียวในการสัญจร ประกอบกับเรือมีราคาแพงเกินจริง จากเดิม 1,300-1,500 บาทต่อลำ ปรับราคาสูงขึ้นกลายเป็น 2,500 บาทขึ้นไป

-'สิงห์บุรี'หนีน้ำวุ่น

สถานการณ์ น้ำ จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาหลายพื้นที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น อาทิ อ.อินทร์บุรี อ.เมือง อ.พรหมบุรี เพราะเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำลงในแม่น้ำเจ้าพระยา 3,281 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ชาวบ้านที่อาศัยอยู่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำท่วมพากันขนย้ายข้าวของหนี กันวุ่นวาย โดยเฉพาะในตลาดสดอินทร์ บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรีพื้นที่ราบลุ่มบางแห่งระดับน้ำสูงจากพื้นประมาณ 2 เมตร

ที่ จ.ลพบุรี สถานการณ์ระดับน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ.พัฒนานิคม ขณะนี้น้ำเหนือไหลเข้าสู่เขื่อนเพิ่มมากขึ้น อยู่ที่ระดับ 922 ล้าน ลูกบาศก์เมตร จนเขื่อนป่าสักฯ รับน้ำไว้แล้ว 1089.62 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่จริงๆ เก็บกักน้ำได้เพียง 96 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ทางเขื่อนคงต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนไหลลงท้ายเขื่อน ซึ่งต้องผ่านจังหวัดสระบุรี ลงสู่กรุงเทพฯ 1,100.17 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะเกรงจะทำให้เขื่อนชำรุด

-น้ำจ่อท่วมเมืองนครสวรรค์

ที่ จ.นครสวรรค์ หลังจากปริมาณน้ำจำนวนมากไหลบ่ามาจากจังหวัดทางภาคเหนือ แม่น้ำปิงยังมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการตรวจสอบบริเวณแนวเขื่อนกั้นน้ำหน้าบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เจ้าพระยา ตลาดปากน้ำโพ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงเกินตลิ่งแล้ว นายจิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ ลงพื้นที่สำรวจระดับน้ำในแม่ น้ำหน้าตลาดปากน้ำโพตลอดคืนที่ผ่านมา พบว่าระดับน้ำขยับตัวสูงขึ้นอีก 10 ซ.ม. น้ำก็จะไหลเข้าท่วมตัวเมืองทันที ทำให้นายจิตตเกษมณ์สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศบาลกว่า 500 คนเร่งอุดท่อระบายน้ำและวางแนวกำแพงหินคลุก ป้องกันแรงดันน้ำจากแม่น้ำดันเข้าสู่ท่อระบายไหลเอ่อเข้าท่วมตลาดปากน้ำโพ และจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณถนนมาตุลีข้างบริษัท เงินทุนหลักทรัพย์เจ้าพระยา

ผู้สื่อข่าวระบุด้วยว่า กระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังไหลแรงได้พัดจนแนวคันดินลงหินคลุกพังที่ ทางเทศบาลนครนครสวรรค์ได้สร้างไว้เพื่อกันน้ำทะลักเข้าสู่ตัวเมือง เคราะห์ดีที่เทศบาลยังมีแนวคันดินแถวสองรองรับน้ำอยู่ จึงต้องรีบเร่งเสริมแนวคันดินแถวสองอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ บริเวณถนนเชิงสะพานเดชาติวงศ์ ซึ่งเป็นจุดที่ชาวปากน้ำโพใช้สัญจรไปมาระหว่างตัวตลาดปากน้ำโพกับส่วนราชการ ฝั่งศาลากลางจังหวัด โดนแรงดันของน้ำใต้ดินกัดเซาะจนเกิดการทรุดตัวเป็นหลุมกว้างเกือบ 10 เมตร ลึก 2 เมตร

-คนแห่รักษาร.พ.มหาราชฯ

ที่จ.นครราชสีมา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าฯ แถลงข้อมูลพื้นที่ประสบอุทกภัยพบครอบคลุมทั้ง 32 อำเภอ 276 ตำบล 2,979 หมู่บ้าน 36 ชุมชน 206,920 ครัวเรือน ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 8 แสนคน ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตจากเหตุจมน้ำ 9 ราย พื้นที่เกษตรเสียหาย 1,594,733 ไร่ สาธารณประโยชน์เสียหาย 1,395 ล้านบาท

สำหรับบรรยากาศ โรงพยาบาลมหาราชนคร ราชสีมากลับมาเปิดให้บริการเป็นวันแรก หลังต้องปิดตัวตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. เพราะโดนน้ำท่วม พบว่า ตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 25 ต.ค. มีผู้ป่วยจำนวนมากทยอยเดินทางด้วยรถบรรทุกสูงที่ ทางกองทัพภาค 2 จัดเตรียมไว้ให้บริการเพื่อเดินทางมาขอรับบริการ แต่การดูแลรักษาช่วงนี้จะยังคงเปิดรับได้เฉพาะผู้ป่วยรายเก่า 3 แผนก ประกอบด้วย แผนกอายุรกรรม แผนกเด็กเล็ก และแผนกหูคอจมูก

ส่วนสภาวะ น้ำท่วมขังในเขตร.พ.มหาราชฯ นั้นเริ่มลดระดับลงมากแล้ว โดยเฉพาะอาคารผู้ป่วยนอก หลังจากกองทัพภาคที่ 2 กรมชล ประทาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัด นำกระสอบทรายมาทำเป็นคันกั้นน้ำโดยรอบ พร้อมกับติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากตัวอาคารตลอด 24 ชั่วโมง แต่ปริ มาณน้ำที่ระบายออกยังไปท่วมขังอยู่บริเวณรอบนอกตัวอาคารสูงกว่า 50 ซ.ม.แทน

-ขอนแก่นระวังน้ำเขื่อน

ที่จ.ขอนแก่น นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในส่วนจ.ขอนแก่นมีน้ำชีจากจ.ชัยภูมิไหลเข้ามาในพื้นที่ขอนแก่นจำนวนมาก ทำให้หลายอำเภอประสบปัญหาน้ำท่วมไปส่วนหนึ่ง และลุกลามเข้ามาในหลายหมู่บ้านเขตอ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องช่วยกันทำพนังกั้นน้ำจากลำน้ำชีในหลายหมู่บ้าน เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้ามาท่วมในหมู่บ้าน ไร่นาเกษตรกร และพื้นที่ในเขตเมืองเศรษฐกิจของเมืองขอนแก่น จึงต้องปิดทางน้ำจากลำน้ำชีในเขต อ.เมืองขอนแก่น ดังกล่าว

ผู้สื่อ ข่าวระบุว่า โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ประกาศว่า มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลเข้าสู่เขื่อน โดยเฉพาะในวันที่ 22 ต.ค. 2553 มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างถึง 193 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันระดับน้ำสูงเกินกว่าระดับเก็บกักปกติ 60 ซ.ม. เขื่อนอุบลรัตน์จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกท้ายเขื่อน ซึ่งอาจทำให้ไร่นาบ้านเรือนบริเวณ 2 ฝั่งลำน้ำพองมีน้ำเอ่อท่วมตามสภาพความจำเป็น จึงขอประกาศให้พี่น้องประชาชนทั้งเหนือน้ำและท้ายน้ำ รับทราบสถานการณ์เพื่อความเข้าใจในเหตุการณ์อุทกภัยครั้งนี้ ขอให้ขนย้ายทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงต่างๆ ไปไว้ในที่ปลอดภัย

-'น้ำชี'ล้นตลิ่งร้อยเอ็ด

ที่ จ.ร้อยเอ็ด สถานการณ์น้ำชีในพื้นที่เพิ่มปริมาณสูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะผลมาจากเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ และอ่างเก็บน้ำ จ.มหา สารคาม ระบายน้ำออกเต็มที่หวั่นเขื่อนพังลงสู่ลำน้ำชีไหลลงสู่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเฉพาะอำเภอจังหาร เป็นด่านแรกที่น้ำชีล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมนาข้าว หมู่บ้าน และวัด โดยเฉพาะบ้านหนองแค หมู่ 8 ต.ม่วงลาด

นายสมใจ นุศาสตร์เลิศ อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองแค หมู่ 8 ต.ม่วงลาด อ.จังหาร ต้องระดมลูกบ้านขุดดินริมถนนใส่กระสอบเนื่อง จากไม่มีงบฯ ซื้อทราย นำไปปิดกั้นถนนทางเข้าหมู่บ้านด้านริมฝั่งลำน้ำชี ซึ่งกระแสน้ำกำลังล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมนาข้าวนาปีที่กำลังจะสุก จำนวน 750 ไร่

นางทองใบ โหระเวท อายุ 46 ปี ชาวบ้านหนองแค กล่าวว่า ขณะนี้ความเดือดร้อนนอก จากน้ำจะท่วมนาข้าวเสียหายสิ้นเชิงแล้ว ยังมีกองทัพหนูนานับแสนตัวมากับน้ำกัดกินต้นข้าวและข้าวที่ออกรวงกำลังสุก ทั้งหมู่บ้านเสียหายไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ทุกวันนี้ตนและชาวบ้านเลยมีอาชีพใหม่จับหนูโดยวิธีการใช้ไฟฟ้าชอร์ตช่วงกลาง คืน ได้คนละ 2-3 ถุงปุ๋ยต่อวัน ประมาณ 50-100 ตัว นำมาตากแห้งกินเป็นอาหารและขายจานละ 20 บาท

-นาข้าวบุรีรัมย์จม 3 หมื่นไร่

เหตุ น้ำท่วมในจ.บุรีรัมย์ ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดน้ำเหนือจากจ.นครราชสีมาที่ไหลมาสมทบลงลำน้ำมูล ทะลักเข้าท่วมโรง เรียนและบ้านเรือนเพิ่มอีก ขณะที่ทหารจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ กว่า 50 นาย พร้อมครู และชาวบ้านเดินลุยน้ำเข้าไปช่วยขนย้ายสมุด หนังสือ และอุปกรณ์การเรียนการสอน ภายในโรงเรียนบ้านบุ่งเบา ต.บ้านจาน อ.พุทไธสง ขึ้นไปเก็บไว้บนชั้น 2

จากข้อมูลพบว่าในเขตพื้นที่ อ.พุทไธสง และอ.คูเมือง มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 100 หลังคาเรือน และนาข้าวที่กำลังออกรวงจมอยู่ใต้น้ำกว่า 30,000 ไร่ หากระดับน้ำไม่ลดลงภายใน 1 สัปดาห์ นาข้าวจะเน่าตายเสียหายทั้งหมด

-'ท่าตูม'ที่เกษตรล่มหมื่นไร่

นาย ประถม ประเมินดี นายอำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์ เชิญหัวหน้าส่วนราชการท้องถิ่น กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชุมที่ที่ว่าการอำเภอท่าตูมเพื่อรับมือน้ำหนุนและแก้ปัญหาน้ำท่วม พร้อมเปิดเผยว่า อ.ท่าตูม แบ่งเขตการปกครอง 165 หมู่บ้าน ปัจจุบันน้ำเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรไร่นา 60 หมู่บ้าน รวมแล้วประมาณ 12,000 ไร่ อ่างเก็บน้ำต่างๆ น้ำเต็ม เช้าวันนี้ปริมาณน้ำมูลไหลเชี่ยวทำให้น้ำสูงขึ้นล้นตลิ่งตลอดแนวลำน้ำมูล 40 ซ.ม. โดยเฉพาะบริเวณวังทลุ บ้านตากลาง หมู่บ้านเลี้ยงช้าง ต.กระโพ น้ำเริ่มล้นตลิ่งปริ่มถนน

-ปภ.เตือน'โรคระบาด'

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ขอเตือนผู้ประสบภัยน้ำท่วมหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ ลงจับสัตว์น้ำ และเล่นน้ำใกล้แนวเสาไฟฟ้าแรงสูง เพราะอาจถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต รวมถึงหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้บริเวณทางน้ำไหลผ่านหรือร่องน้ำเพราะอาจเกิดดิน ถล่ม และกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก อาจพัดจมน้ำเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ควรระมัดระวังสัตว์เลื้อยคลานที่มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมลงป่อง เป็นต้น ที่อาจหนีน้ำขึ้นมาอาศัยอยู่ในบริเวณบ้านเรือน รวมถึงโรคติดต่อที่มักเกิดในช่วงน้ำท่วมขัง อาทิ โรคฉี่หนู อหิวา ตกโรค เป็นต้น โดยควรบริโภคน้ำสะอาดและรับประทานอาหารที่สุกและสดใหม่ รักษาสุข ภาพให้แข็งแรงและอบอุ่นตลอดเวลา ตลอดจนรักษาสุขอนามัย โดยเฉพาะในด้านการขับถ่ายให้เก็บใส่ถุงที่ปิดมิดชิด

ส่วนจังหวัด ที่ประสบอุทกภัยจนถึงวันที่ 25 ต.ค. มี 27 จังหวัด 225 อำเภอ 1,646 ตำบล 12,414 หมู่บ้าน 940,673 ครัวเรือน 2,651,944 คนพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 2,878,598 ไร่ ได้แก่ จ.พิจิตร ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี อยุธยา สระแก้ว นครราชสีมา ปราจีนบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ ชัยภูมิ สระบุรี เพชรบูรณ์ นครนายก ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น นนทบุรี ปทุมธานี กำแพงเพชร นครปฐม อุทัยธานี เชียงใหม่ ลำพูน และสมุทรปราการ และมีจังหวัดที่สถานการณ์คลี่ คลายแล้ว 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด ตาก และชลบุรี

-เผยยอดตายเพิ่ม 41 ศพ

สถาบัน การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพช.) สรุปยอดผู้เสียชีวิต จากภัยน้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 10-25 ต.ค. จากเดิมมีผู้เสียชีวิต จำนวน 38 ราย ล่าสุดมีการแจ้งยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย คือ ที่จ.ลพบุรี 2 ราย และ จ.นครสวรรค์ อีก 1 ราย ทำให้จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมครั้งนี้รวมทั้งสิ้นแล้ว 41 ราย แยกเป็น จ.นครราชสีมา 6 ราย จ.บุรีรัมย์ 6 ราย จ.ลพบุรี 8 ราย จ.ขอนแก่น 3 ราย จ.เพชร บูรณ์ 3 ราย จ.ระยอง 2 ราย จ.ชัยภูมิ 2 ราย จ.ตราด 1 ราย จ.สระแก้ว 1 ราย จ.สระบุรี 1 ราย จ.พระนครศรีอยุธยา 1 ราย จ.นนทบุรี 1 ราย จ.อุทัยธานี 1 ราย จ.ชัยนาท 1 ราย จ.กำแพงเพชร 3 ราย และจ.นครสวรรค์ 1 ราย

-สมิทธชี้'ลานีญา'พ่นพิษ

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตประธานกรรม การอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า จากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ในหลายพื้นที่ ตั้งแต่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออก ภาคกลาง เป็นผลที่เกิดมาจากฝนตกหนักอันเป็นผลกระทบจากปรากฏการณ์ "ลานีญา" ทำให้ประเทศไทยมีปริมาณฝนสูงกว่าปกติและทำให้ฤดูฝนยาวนานกว่าปกติ อย่างกรณีของ จ.นครราชสีมา ที่ไม่เคยเกิดเหตุน้ำท่วมหนักอย่างที่เป็นอยู่นั้น เป็นผลที่เกิดจากบริเวณนคร ราชสีมาอยู่ในพื้นที่สูงและเป็นเขตป่าดงดิบเขาใหญ่มีความชื้นสูง

"ปรากฏ การณ์ลานีญาจะทำให้มีฝนตกหนักมากกว่าปกติ เมื่อน้ำฝนที่ตกลงมาไหลลงสู่ที่ต่ำ แต่ด้วยปริมาณน้ำฝนที่มาก ทำให้ตามห้วย-หนอง-คลอง-บึง หรือเขื่อนลำตะคอง รองรับกักเก็บน้ำปริมาณมากๆ ไม่ได้ ทำให้เกิดการล้นและไหลไปตามที่ต่างๆ จนเกิดน้ำท่วมหนัก สร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้านในพื้นที่ที่น้ำท่วมขัง อย่างไรก็ตาม มองว่าถ้ามีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทรัพยากรน้ำ เข้ามาบริหารจัด การทรัพยากรน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดสรรน้ำให้มีที่กักเก็บได้อย่างพอเหมาะ จะทำให้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมบรรเทาเบาบางลง ปัญหาน้ำท่วมจะไม่หนักหนาสาหัสดังที่เป็นอยู่" ดร. สมิทธ ชี้

-จวกยับศูนย์เตือนภัยพิบัติ

ดร.สมิ ทธ กล่าวต่อว่า ระบบการเตือนภัยของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติถือว่าทำงานไร้ประสิทธิภาพ ไม่มีการแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า แต่กลับแจ้งให้รับทราบหลังจากน้ำท่วมไปแล้ว ทั้งๆ ที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติก่อตั้งมาเป็นเวลา 6 ปีตั้งแต่ครั้งเกิดภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิทางภาคใต้ตามที่ตนได้เสนอให้ รัฐบาลในยุคนั้นจัดตั้งขึ้นเพื่อแจ้งเตือนประชาชนในกรณีที่มีพิบัติภัยเป็น การล่วงหน้า เป็นศูนย์ที่มีความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์และเครื่องมือที่มีความทันสมัย แต่ในเรื่องน้ำท่วม หรือน้ำป่าไหลหลากลงมาจากภาคเหนือลงมาสู่ภาคกลางตอนบนและตอนล่าง กลับไม่มีการแจ้งเตือนประชาชน

นอกจากนี้ ดร.สมิทธ ระบุอีกว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ควรเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรีโดยตรง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน นายกฯ จะได้สั่งการทันท่วงที อย่างจีนหรือญี่ปุ่น หน่วยงานในลักษณะศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจะขึ้นตรงกับนายกฯ หรือไปสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีความเกี่ยวข้องกับ เรื่องของน้ำ แต่ปรากฏว่ารัฐ บาลกลับเอาศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติไปสังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ หรือไอซีที ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน

"แม้ศูนย์ เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจะเกิดขึ้นจากกรณีคลื่นยักษ์สึนามิถล่มภาคใต้ แต่ศูนย์มีหน้าที่เตือนภัยพิบัติทุกชนิด เราจะมาอ้างว่าเหตุน้ำท่วมเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถป้องกันล่วงหน้าไม่ ได้ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงปัญหาเรื่องนี้เราแก้ไขได้ ผมคิดว่าศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติควรปรับ ปรุงระบบการทำงานให้ดีกว่านี้" ดร.สมิทธกล่าว



ขอบคุณความรู้ข่าวสดของ วันนี้ (26/10/2553) ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คำเตือนพื้นที่กรุงเทพเสี่ยงภัยริมแม่น้ำเจ้าพระยา 13 เขต

พื้นที่เสี่ยงภัยริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหหาสวัสดิ์รวม 13 เขต 27 ชุมชน 1,273 ครัวเรือน
1.เขตบางซื่อ มี 2 ชุมชน คือ ชุมชนพระราม 6 (ฝั่งติดแม่น้ำ) และชุมชนปากคลองบางเขนใหม่
2.เขตดุสิต มี 5 ชุมชน คือ ชุมชนเขียวไข่กา (ถ.เขียวไข่กาช่วงปลาย) 20 ครัวเรือน ชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ(เชิงสะพานกรุงธน) ชุมชนซอยสีคาม (ซอยสามเสน 19 ช่วงปลาย) ชุมชนปลายซอยมิตรคาม(ซอยสามเสน 13 ช่วงปลาย)และชุมชนวัดเทวราชกุญชรฯ (ถ.ศรีอยุธยาช่วงปลาย)
3.เขตพระนคร มี 3 ชุมชน คือ ชุมชนท่าวัง ชุมชนท่าช้าง และชุมชนท่าเตียน
4.เขตสัมพันธวงศ์ มี 2 ชุมชน คือ ชุมชนวัดปทุมคงคา(ท่าน้ำสวัสดี) และชุมชนตลาดน้อย
5.เขตบางคอแหลม มี 4 ชุมชน คือ ชุมชนวัดบางโคล่นอก ชุมชนหน้าวัดอินทร์บรรจง ชุมชนซอยมาตานุสรณ์ และชุมชนหลังร.พ.เจริญกรุงประชารักษ์
6.เขตยานนาวามี 1 ชุมชน คือ ชุมชนโรงสี (ถ.พระราม 3)
7.เขตคลองเตย มี 1 ชุมชน คือ ชุมชนสวนไทรริมคลองพระโขนง
8.เขตบางพลัด มี 1 ชุมชน คือชุมชนวัดฉัตรแก้ว
9.เขตบางกอกน้อย 4 ชุมชน คือ ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ ชุมชนปากคลองน้ำตาล-คลองพิณพาทย์ ชุมชนตรอกวังหลังและชุมชนดุสิต-นิมิตรใหม่
10.เขตธนบุรี 1 ชุมชน คือ ชุมชนปากคลองบางกอกใหญ่
11.เขตคลองสาน 1 ชุมชน คือ ชุมชนเจริญนครซอย 29/2
12.เขตราษฎร์บูรณะ มี 1 ชุมชน คือ ชุมชนดาวคะนอง
13.เขตทวีวัฒนา มี 1 ชุมชน คือ ชุมชนวัดปรุณาวาส




ขอขอบคุณแหล่งที่มา
http://news.mthai.com/general-news/91107.html

วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ลองแกะกล่องนมออกมาดูสิ . .

คุณเคยลองแกะกล่องนมเพื่อจะดูด้านในของมันหรือไม่ ??

ผมลองแกะแล้ว มันเป็นอย่างนี้1
อันนี้แกะยี่ห้อด้านนอก อันนี้ด้านหน้าครับ2
3
4
5
ลงถังขยะไปซะ (หรือเอาไปทำกระดาษรีไซเคิล)
จบครับ

วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ขอเชิญร่วมลงนามถวายพระพรพร้อมทั้งบริจาคโลหิต ณ รพ. ศิริราช

ในวันที่ 10 ตุลาคม 53นี้ บริษัท อินิทรี ดิจิตอล จำกัด ขอเชิญเหล่าเกมเมอร์และเหล่าสื่อมวลชน ร่วมลงนามถวามพระพรและร่วมบริจาคโลหิต ณ รพ. ศิริราช ในเวลา 10 นาฬิกา - 12 นาฬิกา ณ อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ โรงพยาบาลศิริราช

สำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคโลหิต กรุณาอ่านเงื่อนไขที่ http://www.inf.ku.ac.th/news/activity/blooddonate_prep.pdf

อ่านรายละเอียดทั้งหมดที่ http://www.mysquare.in.th/blog_main.php?md=news-detail&id=1771

ขอขอบคุณ ข่าวจาก INI3 นะครับ

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คำถามเชาว์ คณิตศาสตร์กวนต่อมความคิด 2

มาเฉลยของเก่าแล้วว เฉลยว่า . .

แค่ยังไม่กระโดดก็ร่วงแล้วครับ

เหอๆ ขอโทษที่ข้อความสั้นมากๆนะครับ เจอกันใหม่ครับ

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

โดราเอมอน เดอะมูฟวี่

โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ (อังกฤษ: Doraemon the movies) เป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวฉบับพิเศษ สร้างโดยบริษัทผลิตภาพยนตร์โตโฮ แอนิเมชั่น สตูดิโอ พิคเจอร์ส เพื่อจัดฉายในโรงภาพยนตร์ปีละหนึ่งตอนในช่วงเดือนมีนาคมเป็นประจำทุกปี ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ตอนไดโนเสาร์ของโนบิตะทั้งนี้ใน พ.ศ. 2548 ยังมีการฉลองครบรอบ 25 ปีของการฉายโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์อีกด้วย และในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 ที่ประเทศญี่ปุ่นก็ได้มีการฉาย โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ตอนไดโนเสาร์ของโนบิตะฉบับสร้างใหม่ โดยใช้ทีมนักพากย์ชุดใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นชุดที่พากย์เสียงให้กับ โดราเอมอนฉบับการ์ตูนทีวีสร้างใหม่ ที่กำลังออกอากาศทางโทรทัศน์ของประเทศญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้ นอกจากนั้นยังมีการดัดแปลงผลิตออกเป็นฉบับหนังสือการ์ตูนด้วย ปัจจุบันมีการสร้างมาแล้วทั้งหมด 30 ตอน และมีการนำตอนเก่ามาสร้างใหม่ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา

รายชื่อตอนของโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

หมายเหตุ: ปีค.ศ. ที่ต่อท้ายชื่อตอน นับตามการออกฉายในโรงภาพยนตร์ที่ประเทศญี่ปุ่น

ผจญภัยไดโนเสาร์ (1980)

ภาพโปสเตอร์ ตอน ผจญภัยไดโนเสาร์
ดูบทความหลักที่ โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の恐竜; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Dinosaur
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ผจญภัยไดโนเสาร์ เป็นตอนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ พีสุเกะ ไดโนเสาร์พันธุ์ญี่ปุ่นที่ โนบิตะไปขุดที่หน้าผาภูเขาหลังโรงเรียนมาเจอหินที่เหมือนไข่ไดโนเสาร์ โดราเอมอนเลยให้ใช้ผ้าคลุมกาลเวลา ย้อนไปเมื่อ 100 ล้านปีก่อน เลยย้อนให้พีสุเกะกลับไป แต่พอตรวจดูลายละเอียดโดราเอมอนกับโนบิตะได้ส่งผิดทวีป จึงต้องไปหาพีสุเกะ แต่ไทม์แมชชีนได้พัง เมื่อชายชุดดำ นักล่าไดโนเสาร์ศตวรรษที่ 23 ได้ส่งลูกบอลตาดำ ไปสืบสวนแต่ก็คิดที่จะเป็นไปไม่ได้ ที่ไดโนเสาร์คอยาวเมื่อ 100 ล้านปีก่อนจะเชื่องกับมนุษย์ได้ โนบิตะเลยต้องสวนทางกลับญี่ปุ่น จะเป็นยังไงต่อไปโนบิตะจะหาทางกลับญี่ปุ่นได้หรือไม่

ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1980 เป็นตอนที่ 1 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) โดยใช้ชื่อตอนว่า "โดเรม่อนผจญไดโนเสาร์" (สะกดตามต้นฉบับ)

โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ (1981)

ภาพโปสเตอร์ ตอนโนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ
ดูบทความหลักที่ โดราเอมอน ตอน โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の宇宙開拓史 ; ชื่อภาษาอังกฤษ: The Record of Nobita, Space blazer
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ เป็นตอนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ โรพอลวาร์ป แล้ว ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างมิติ ที่เชื่อมโยงกับใต้เสื่อในห้องของโนบิตะ เมื่อหมดหนทางกลับบ้าน กลางดึกคืนนั้นเอง จามี่ สัตว์เลี้ยงของโรพอล ได้เปิดประตูข้ามมิติมาที่โลก จนเจอกับโนบิตะและโดราเอมอน โดราเอมอนจึงช่วยพากลับบ้าน แต่ทว่าบนดาวบ้านเกิดของโรพอลนั้น กลับมีเหล่าร้าย โจรโขมยแร่การ์ไทต์ โนบิตะและเพื่อน ๆ จึงต้องหาหนทาง ช่วยดาวดวงนี้ให้ได้ เด็กชายในอวกาศ วันหนึ่งเครื่องเกิดเสียระหว่างที่เดินทางกลับดาวบ้านเกิด เมื่อลอง

ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1981 เป็นตอนที่ 2 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) โดยใช้ชื่อตอนว่า "โดเรม่อนบุกพิภพอวกาศ"

บุกแดนมหัศจรรย์ (1982)

ภาพโปสเตอร์ ตอนบุกดินแดนมหัศจรรย์
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の大魔境; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Haunts of Evil
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน บุกดินแดนมหัศจรรย์ เป็นตอนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ เปโกะ ลูกสุนักจรจัดหลงทาง ที่โนบิตะบังเอิญพบเข้าและเก็บเอามาเลี้ยง เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ทำให้ทุก ๆ คนอยากออกผจญภัย โดราเอมอนจึงพาทุกคนไปยังป่าลึกลับแถบแอฟริกาชื่อป่า Heavy Smoker แต่ระหว่างทาง กลับเจออุปสรรคมากมาย ทำให้ไจแอนท์หวาดกลัว จนไม่อยากเดินทางอีกแล้ว แต่ทว่าในคืนนั้น กลับมีเทวรูปศักดิ์สิทธิ์มาบอกไจแอนท์ว่ามีสมบัติรออยู่และให้แผนที่ ทำให้ไจแอนท์บังคับให้ทุกคนเดินทางไปกันอีกครั้ง แต่เมื่อถึงที่หมาย กลับไม่เป็นเช่นอย่างที่ฝัน เปโกะกลับพูดได้และบอกว่าตัวเองเป็นรัชทายาท เจ้าชายตุงตัง ทายาทองค์ที่ 108 แห่งราชวงศ์บาวังโก และขอความช่วยเหลือโดราเอมอนให้ช่วยปราบ ดาบูรันด้า เพื่อทวงบัลลังก์คืน พร้อมกับปริศนาคำทำนาย คนต่างถิ่นทั้ง 10 คน
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 1982 เป็นตอนที่ 3 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ผจญภัยใต้สมุทร (1983)

ภาพโปสเตอร์ ตอนตะลุยปราสาทใต้สมุทร
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の海底鬼岩城; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Castle of the Undersea Devil หรือ Nobita's Monstrous Underwater Castle
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยปราสาทใต้สมุทร เป็นตอนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การผจัญภัยใต้ทะเล เริ่มจากไจแอนท์และซูเนโอะ ได้ข่าวเรื่องการค้นพบทองในเรือปีศาจ จึงขอร้องโดราเอมอนไปเที่ยวใต้ทะเล โดราเอมอนจึงใช้ รถบัคกี้ (บัคกี้จัง) พาทัวร์ใต้ทะเล แต่ที่ใต้ทะเลนั้นเอง พวกโดราเอมอน ได้พบกับบุคคลลึกลับใต้ทะเล เอล ได้เล่าถึงอวสานของโลก เนื่องจากทวีปแอตแลนติส ในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ด้วยการนำจาก“โพเซดอน” คอมพิวเตอร์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้ทำลายโลก พวกโดราเอมอน จึงต้องช่วยกันหยุดยั้งเอาไว้ให้ได้ เนื้อหาบางส่วนคล้ายตนเหล็ก 2029(1984)
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1983 เป็นตอนที่ 4 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ท่องแดนเวทมนตร์ (1984)

ภาพโปสเตอร์ ตอนตะลุยแดนปีศาจ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の魔界大冒険; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Great Adventure into the Underworld
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ท่องแดนเวทมนตร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ โนบิตะและ โดราเอมอนที่ไปทิ้งพรมเก่า ๆที่กองขยะ ทันใดนั้นมีรูปปั้นประหลาดตกมาใส่โดราเอมอน โดราเอมอนจึงนำรูปปั้นที่เหมือนตนเองดังกล่าวย้ายไปที่สวนหลังบ้าน ต่อมาไจแอนด์กับซึเนโอะ ได้ชวนโนบิตะไปเล่นเบสบอล เกิดการทะเลาะกัน เลยไปนั่งใต้ต้นไม้ที่ลานว่าง บังเอิญมี่รูปปั้นประหลาดที่หน้าตาคล้ายคลึงกับโนบิตะตกลงมาอีก เลยย้ายไปที่สวนหลังบ้าน โดราเอมอนและโนบิตะคิดว่ารูปปั้นที่ตกลงมานั้นเหมือนทั้งสอง และฝนตกลงมาโดราเอมอนเข้าบ้านไปก่อน พอโนบิตะมองดูรูปปั้นเห็นรูปปั้นมีเหงื่อตะกละเต็ม เลยตกใจ พ่อแม่ได้ยินเสียงโวยวายจึงไล่ให้ไปนอน โนบิตะก็นึกได้ว่า อยากจะทำให้โลกของตัวเองเป็นโลกแห่งเวทมนตร์ เลยให้โดราเอมอนเอาตู้โทรศัพท์ติ๊งต๊องบอกให้เป็นโลกแห่งเวทมนตร์ พอรุ่งเช้า ทั้งสองเห็นความแปลกประหลาดกลายเป็นโลกแห่งเวทมนตร์ ไจแอนด์และซึเนโอะชวนไปเล่นขี่ไม้กวาดแต่ทั้งสองไม่ไปเล่น เลยไปเล่นกับชิซุกะแทน พอไปเล่นขี่ไม้กวาดได้เจอไจแอนด์กับซึเนโอะประสบอุบัติเหตุและได้ไปเจอบ้าน หลังหนึ่งและได้พบ ดร.มันเงะสึ และบุตรสาวชื่อมิยาโกะ ได้เล่าเรื่องถึงโลกแห่งปีศาจ ขณะที่ ดร.มันเงะสึกำลังแปลคำภีร์ ได้ถูกพวกปีศาจจับตัวไป มิยาโกะได้ถูกสาปเป็นแมว แต่เมื่อโนบิตะกลับบ้าน จึงได้พบว่าแม่เอาตู้ติ๊ต่างไปที่กองขยะจนพังเสียแล้ว มิยาโกะที่กลายเป็นแมวจึงได้มาหาโนบิตะที่บ้านพอแสงจันทร์มาส่องแมวค่อยๆ เปลี่ยนร่างเป็นมิยาโกะ และได้นำคำภีร์มาด้วยชุดหนึ่ง ช่วงแรกพวกโนบิตะไม่ไป แต่โลกต้องเผชิญกับภัยพิบัติต่างๆ ทุกคนจึงต้องปกป้องโลกเพื่อไม่ให้พวกปีศาจมายึดครองโลก ทั้ง 6 คนต้องไปโลกแห่งปีศาจเพื่อปกป้องโลก
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1984 เป็นตอนที่ 5 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


สงครามอวกาศ (1985)

ภาพโปสเตอร์ ตอนสงครามอวกาศ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の宇宙小戦争; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Little Galaxy Wars หรือ Nobita's Little Star Wars
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน สงครามอวกาศ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "ปาปิ" ประธานาธิบดีวัย 10 ขวบของดาวพิริคะ ที่ถูกจอมเผด็จการ "นายพลกิลมอร์"ล้มล้างอำนาจและได้หลบหนีมายังโลกขณะที่นายพลกิลมอร์เองก็ได้ ส่งผู้บัญชาการ "โดรากอลรูรู"แห่ง PCIA มาตามล่าปาปิเช่นกัน ปาปิได้ลี้ภัยมายังบ้านของโนบิตะและโดราเอมอน จากการตามล่ากองกำลังของ PCIA ทำให้โดราเอมอน โนบิตะ และเหล่าผองเพื่อนได้วางแผนกันอย่างลับ ๆ เพื่อช่วยเหลือปาปิให้กลับไปยังดาวพิริคะและล้มล้างเผด็จการคืนอำนาจให้กลับ ปาปิ ณ ฐานทัพที่โดราเอมอนสร้างขึ้น แต่ไม่วายถูกพวก PCIA หาฐานลับพบและชิซุกะก็ถูกจับตัวไป เมื่อปาปิรู้ว่าชิซุกะถูกจับตัวก็ได้แอบหนีพวกโนบิตะมามอบตัวกับพวก PCIA เพื่อแลกกับชีวิตของชิซุกะ โนบิตะ โดราเอมอน ชิซุกะ ไจแอนท์ และซึเนะโอะจึงต้องเดินทางไปยังดาวพิริคะเพื่อช่วยเหลือพาพิก่อนที่จะถูก ประหารและนำอำนาจกลับมาสู่ปาปิอีกครั้ง
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1985 เป็นตอนที่ 6 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


โดเรม่อน ตอน สงคราม

ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก (1986)

ภาพโปสเตอร์ ตอนผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と鉄人兵団; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Platoon of Iron Men หรือ Nobita and the Steel Troops
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ โนบิตะที่ได้พบส่วนประกอบของหุ่นยนต์ยักษ์ในขั้วโลกเหนือพร้อมกับลูกบอล ประหลาดที่ส่งเสียงร้องตลอดเวลา (ภายหลังจึงรู้ว่าเป็นสมองของหุ่นยนต์ยักษ์ดังกล่าว) จึงชวนโดราเอมอนมาประกอบหุ่นยนต์ยักษ์นี้โดยใช้ของวิเศษสร้างโลกกระจกออกมา และได้ตั้งชื่อหุ่นยนต์นี้ว่า "ซานตาครอส" แต่ภายหลังพวกเขาก็รู้ว่าหุ่นยนต์นี้ได้นำมาใช้ในสงครามเนื่องจากมีเลเซอร์ ที่สามารถถล่มตึกสูงใหญ่ภายในพริบตาจึงได้พยายามปิดเรื่องนี้เป็นความลับและ ขังหุ่นยนต์ยักษ์ไว้ในโลกกระจกตลอดไปและให้สัญญากันว่าจะไม่ให้ใครรู้เรื่อง นี้เป็นอันขาด ต่อมาโนบิตะได้มาพบกับ "ริล" หญิงปริศนาที่ปรากฏตัวพร้อมกับการถามหาเบาะแสเกี่ยวกับหุ่นยนต์ยักษ์จิวและ บีบคั้นให้โนบิตะบอกที่ซ่อนของหุนยนต์ยักษ์พร้อมกับขอของวิเศษที่เป็นทาง เข้าออกโลกกระจกอีกด้วยซึ่งต่อมาโดราเอมอนและโนบิตะได้สืบหาเรื่องราวของริล จนรู้ว่าเธอได้แอบสร้างฐานทัพสำหรับนำร่องเหล่าหุ่นยนต์จำนวนมหาศาลจากเมกา โทเปียเพื่อหมายจะยึดครองโลกไว้ในโลกแห่งกระจก ทำให้โดราเอมอน โนบิตะ และเหล่าผองเพื่อนต้องเตรียมกำลังเพื่อต่อสู้กับหุ่นยนต์จำนวนเป็นล้าน ๆ
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1986 เป็นตอนที่ 7 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


เผชิญอัศวินไดโนเสาร์ (1987)

ภาพโปสเตอร์ ตอนเผชิญอัศวินไดโนเสาร์
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と竜の騎士; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Knights of Dinosaurs
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน เผชิญอัศวินไดโนเสาร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะที่พยายามจะซ่อนผลสอบ 0 คะแนนโดยไม่ให้แม่รู้ ด้วยการพึ่งของวิเศษ "ท่อหาโพรงใต้ดิน" แต่บังเอิญที่ท่อนั้นเชื่อมต่อกับโพรงที่มีขนาดใหญ่มากทำให้โนบิตะวางแผนที่ จะสร้างสถานที่ส่วนตัวโดยที่ไม่ให้ผู้ใหญ่มากวนใจโดยที่ชวนชิซุกะ ไจแอนท์ ซึเนะโอะ มาร่วมด้วยแต่ความสนุกนั้นอยู่ได้ไม่นานเมื่อท่อหาโพรงใต้ดินถูกทำลายเนื่อง จากวางทิ้งเกะกะระหว่างทางจึงโดนรถทับทำให้พวกโนบิตะไม่สามารถไปยังโพรงนั้น ได้อีกแต่บังเอิญที่ซึเนะโอะไม่สามารถขึ้นจากใต้ภิภพได้ทันทำให้ต้องติดอยู่ ในโลกใต้ภิภพตลอดไป เดือดร้อนให้โดราเอมอนและเพื่อน ๆ ต้องช่วยกันออกตามหา เมื่อพวกเขาสามารถหาโลกใต้ภิภพเจอก็เจอเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเมื่อไดโนเสาร์ ที่น่าจะสูญพันธ์ไปเมื่อหลายล้านปีกลับมาอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้และพวกเขาก็ยังได้พบเจอกับเมืองไดโนเสาร์ที่มีเทคโลยีและอารยธรรม ที่เจริญมาก พวกเขาจะทำเช่นไรและจะสามารถตามตัวซึเนะโอะเจอหรือไม่
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1987 เป็นตอนที่ 8 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ดินแดนเทพนิยายไซอิ๋ว (1988)

ภาพโปสเตอร์ ตอนไซอิ๋ว
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太のパラレル西遊記; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Version of Journey to the West หรือ Nobita's Parallel "Journey to the West"
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตำนานเทพนิยายไซอิ๋ว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะที่พยายามจะพิสูจน์ว่าหงอคงมีอยู่จริง จึงได้นั่งไทม์แมชชีนไปยังประเทศจีนสมัยที่พระถังซัมจั๋งไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่ชมพูทวีป และบังเอิญที่โนบิตะได้พบกับหงอคงขณะที่หงอคงกำลังขี่เมฆบิน ผ่านไป เมื่อเห็นเช่นนั้นโนบิตะจึงชวนให้พวกเพื่อน ๆ มาเห็นเพื่อพิสูจน์ความจริง แต่เรื่องมันไม่ง่ายเช่นนั้นเมื่อไทม์แมนชีนได้ลบข้อมูลการเดินทางเมื่อ ครั้งก่อนออกหมดแล้ว เดือดร้อนโดราเอมอนให้ช่วยสร้างสถานการณ์ว่ามีหงอคงอยู่จริงด้วยเครื่อง "ฮีโร่แมนชีน" ซึ่งเป็นเกมส์ชนิดหนึ่งในโลกอนาคตโดยให้โนบิตะแสดงเป็นหงอคงเพื่อหลอกเพื่อน ๆ แต่ไม่วายถูกจับได้ ขณะที่เวลานั้นพวกปีศาจในฮีโร่แมนชีนได้แอบหนีออกมาจากเครื่องโดยที่โดราเอ มอนเองก็ไม่รู้ตัว เมื่อกลับมายังโลกปัจจุบันพวกโนบิตะก็ต้องรู้สึกถึงความเปลี่ยนไปของพ่อแม่ ครู และเพื่อนอีกหลาย ๆ คนจนในที่สุดก็รู้ว่าพวกเขาได้กลายเป็นปีศาจไปเสียแล้ว ทางเดียวที่จะสามารถทำให้ทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิมคือ การไปกำจัดปีศาจในโลกอดีตกลับเข้าเครื่องฮีโร่แมนชีนให้เร็วที่สุดก่อนที่ พวกปีศาจจะลอบจับกินพระถัมซัมจั๋ง
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1988 เป็นตอนที่ 9 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์
เกร็ด : ภาพยนตร์ชุดนี้ไม่ได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือการ์ตูน จึงสามารถหาชมได้ฉพาะในรูปแบบอะนิเมะเท่านั้น


กำเนิดประเทศญี่ปุ่น (ท่องแดนญี่ปุ่นโบราณ) (1989)

ภาพโปสเตอร์ ตอนกำเนิดประเทศญี่ปุ่น
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の日本誕生; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita at the Birth of Japan
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน กำเนิดประเทศญี่ปุ่น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะที่วางแผนจะหนีออกจากบ้านเนื่องจากน้อยใจแม่ ที่ดุด่าว่าเขาแต่ไม่ว่าจะหนีไปที่ใดมักจะมีอุปสรรคอยู่เสมอขณะที่ชิซุกะ ไจแอนท์ ซึเนะโอะ หรือแม้แต่โดราเอมอนก็คิดที่หนีออกจากบ้าน ทั้งหมดจึงได้คิดที่จะนั่งไทม์แมชชีนย้อนอดีตกลับไปสมัยที่ญี่ปุ่นไม่มี มนุษย์อาศัยอยู่ และสร้างบ้านที่นั่นโดยเลียนแบบชีวิตของมนุษย์ยุคโบราณ ขณะที่มนุษย์โบราณ (ตัวจริง) ได้หลงเข้ามาในมิติเวลา และหลุดจากมิติมาโผล่ที่ภูเขาหลังโรงเรียนและหนีเข้ามาอาศัยในบ้านโนบิตะ เมื่อพวกโนบิตะพบเจอจึงได้ตรวจสอบประวัติเขา และพบว่าเขาเป็นมนุษย์ยุคโบราณที่มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศจีนแผ่น ดินใหญ่ และเมื่อสอบถามประวัติเขาก็รู้ว่าเขามีชื่อว่า "คุคุรู" เป็นลูกของหัวหน้าเผ่าแสงสว่าง และพวกชนเผ่าก็ได้ถูกเผ่าแห่งความมืด โดยมี "กิกะซอมบี้" ผู้เป็นหัวหน้า เข้ารุกรานและจับตัวไป พวกโดราเอมอนจึงรีบเดินทางไปช่วยชนเผ่าแสงสว่างให้รอดพ้นจากภัยอันตรายใน ครั้งนี้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1989 เป็นตอนที่ 10 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ตะลุยดาวต่างมิติ (1990)

ภาพโปสเตอร์ ตอนตะลุยดาวต่างมิติ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太とアニマル惑星; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Animal Planet
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยดาวต่างมิติ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะและเหล่าผองเพื่อนที่ได้หลงเข้าไปในหมอกสีชมพู และหลุดออกมายังดาวเคลเฮนอาณาจักรของเหล่าสิงสาราสัตว์ที่มีความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยีมากกว่าโลก ที่ซึ่งสัตว์ทุกตัวใช้ชีวิตและพูดได้เหมือนมนุษย์และมีสภาพแวดล้อมเหมือนกับ โลกแทบทุกอย่าง แต่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติที่ดีกว่าโลกเป็นอย่างมาก พวกโนบิตะได้มาพบกับ "ชิปโปะ" สุนัขน้อยที่ชอบเล่นซนและต้องการไขปริศนาของป่าต้องห้ามซึ่งตั้งอยู่อีกฟาก ของเมืองแต่เหตุการณ์ร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อพวก "นิบุเกะ" มนุษย์จากดวงจันทร์(หมายถึงดาวฝาแฝด)ตามตำนานของชาวดาวได้บุกมาทำลายดวงดาว ของพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่สามารถต่อกรกับผู้มาเยือนได้ โดราเอมอน โนบิตะ และเหล่าผองเพื่อนจึงต้องหาทางช่วยเหลือและต่อกรกับพวกนิบุเกะก่อนที่พวกชาว ดาวจะถูกฆ่า
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1990 เป็นตอนที่ 11 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ตะลุยแดนอาหรับราตรี (1991)

ภาพโปสเตอร์ ตอนตะลุยแดนอาหรับราตรี
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太のドラビアンナイト; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita in Dorabian Nights
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยแดนอาหรับราตรี เป็นเรื่องราวของการผจญภัยครั้งใหม่ที่เริ่มขึ้นเมื่อโนบิตะขโมยรองเท้าวิเศษซึ่งสามารถเข้าไปยังโลกบนหนังสือนิทานได้ จากโดราเอมอน เป็นรองเท้าวิเศษที่ทุกคนสามารถเข้าไปสัมผัสโลกนิทานได้ด้วยตนเอง แต่จะไม่สามารถจับต้องหรือเปลี่ยนแปลงใด ๆ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะผิดแปลกไปจากเดิม จนทำให้ชิซุกะพลัดหลงอยู่ในหนังสือนิทานอาหรับราตรีและซ้ำร้ายหนังสือนิทานนั้นก็ถูกแม่ของโนบิตะเผาทิ้งไป ทำให้โดราเอมอนกับเพื่อน ๆ ต้องออกท่องอาหรับราตรีเพื่อช่วยเหลือชิซุกะ
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 1991 เป็นตอนที่ 12 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


บุกอาณาจักรเมฆ (1992)

ภาพโปสเตอร์ ตอนบุกอาณาจักรเมฆ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と雲の王国; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Kingdom of Clouds
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน บุกอาณาจักรเมฆ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโดราเอมอน โนบิตะ และเหล่าผองเพื่อน ที่ต้องการจะสร้างสรวงสวรรค์ของตัวเองบนท้องฟ้าโดยใช้ของวิเศษ "ก๊าซทำให้เมฆแข็งตัว" ต่อมาพวกเขาก็ได้พบกับเด็กชาวใต้คนหนึ่งขณะที่นอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนหลัง เต่าดึกดำบรรพ์ ณ ภูเขาหิมะ พวกโนบิตะจึงพาตัวเขามารักษาและต้องการทราบสาเหตุว่าเหตุใดเขาจึงได้ไปอยู่ บนภูเขาหิมะ แต่ทว่าในวันต่อมาเขาก็ได้หายตัวไป พวกโนบิตะจึงได้สืบหาหาตัวเขาและบังเอิญเข้ามาในอาณาจักรเมฆ (เพราะความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาณาจักรที่ตนเองสร้างขึ้น) ณ ที่แห่งนั้นพวกเขาก็ได้พบกับพันธุ์ไม้และสัตว์ต่าง ๆ ที่สูญพันธ์ไปจากโลกแล้วพร้อมกับกลุ่มมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่อ้างตัวเป็นมิตร และคอยต้อนรับพวกเขา โดยหารู้ไม่ว่าพวกเขาได้วางแผนการที่จะชำระล้างโลกด้วยแผนโนอา
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1992 เป็นตอนที่ 13 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ฝ่าแดนเขาวงกต (1993)

ภาพโปสเตอร์ ตอนฝ่าแดนเขาวงกต
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太とブリキの迷宮; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Tin-Plate Labyrinth
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ฝ่าแดนเขาวงกต เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโนบิตะได้รับกระเป๋าประหลาดที่สามารถกลายสภาพ เป็นประตูที่พาไปยังโรงแรงบนเกาะที่มีชื่อว่า "บริคิงโฮเต็ล" โนบิตะและโดราเอมอนได้รับการต้อนรับจากผู้จัดการโรงแรมที่เป็นหุ่นยนต์เป็น อย่างดีในฐานะที่เป็นแขกวีไอพี ต่อมาโนบิตะและโดราเอมอนได้ไปเล่นสกีที่ภูเขาหิมะใจกลางเกาะ แต่ทว่าโนบิตะได้ประสบอุบัติเหตุผลัดหลงกับโดราเอมอน แต่ก็สามารถกลับโรงแรมได้อย่างปลอดภัย ขณะที่โดราเอมอนได้ถูกพวกหุ่นยนต์ทหารขนาดเล็กจับตัวไประหว่างตามหาโนบิตะ และถูกนำตัวไปยังดาวฉาโมฉะ ทำให้โนบิตะและเพื่อน ๆ ต้องออกเดินทางไปยังดาวฉาโมฉะโดยอาศัยเกาะบริคิง(ยานอวกาศ)ของพ่อของ "ซาบิโอะ" เด็กชายที่หนีจากการตามล่าของ "นาโพกิสโทร่า" หุ่นยนต์กบฏที่ตั้งตัวเองเป็นราชา แล้วพวกโนบิตะจะต้องช่วยเหลือโดราเอมอนโดยปราศจากของวิเศษ
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1993 เป็นตอนที่ 14 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


3 อัศวินในจินตนาการ (1994)

ภาพโปสเตอร์ ตอนสามอัศวินในจินตนาการ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と夢幻三剣士; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Fantastic Three Musketeers
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน สามอัศวินในจินตนาการ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะที่ต้องการสร้างโลกแห่งความฝันซึ่งมีตัวเอง เป็นฮีโร่จึงขอร้องโดราเอมอนให้นำ "เครื่องสร้างความฝัน" ออกมา แต่ก็ไม่มีเรื่องใดที่ถูกใจโนบิตะเลย วันหนึ่งโนบิตะก็ได้พบกับหญิงชราท่าทางแปลก ๆ และให้โนบิตะกินเชอรี่วิเศษที่ทำให้มีความสามารถเหนือคนธรรมดาทั่วไป แต่ต้องอยู่ในโลกแห่งนิรันดร์กาลเท่านั้น ซึ่งต่อมาโนบิตะก็ได้ขอร้องโดราเอมอนให้ซื้อเครื่องสร้างความฝันชุดอัศวิน มังกรซึ่งเป็นสินค้าออกใหม่ให้ และพา ชิซุกะ ไจแอนท์ ซุเนะโอะมาร่วมในการผจญภัยครั้งนี้ด้วย โดยที่หน้าที่หลักของพวกเขาคือการกำจัดเจ้าแห่งปีศาจ พวกเขาได้พาลพบกับอุปสรรคต่าง ๆ เช่น ต้นโอ๊กยักษ์ที่ซ่อนดาบวิเศษ มังกรที่สามารถทำให้ผู้อื่นกลายเป็นหินได้ กองทัพปีศาจจำนวนมาก แล้วพวกเขาจะฝ่าฟันไปได้หรือไม่?
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1994 เป็นตอนที่ 15 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


บันทึกการสร้างโลก (1995)

ภาพโปสเตอร์ ตอนบันทึกการสร้างโลก
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の創世日記; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Genesis Diary
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน บันทึกการสร้างโลก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะและเพื่อน ๆ ที่ได้การบ้านปิดเทอมเป็นรายงาน ซึ่งก็เป็นปัญหาเดิม ๆ และเพื่อนแต่ละคนก็มีหัวข้อทั้งนั้น โนบิตะจึงขอร้องโดราเอมอน แล้วโดราเอมอนก็ซื้อ "ชุดสร้างโลก" มาให้ เมื่อสร้างโลกจนสิ่งมีชีวิตเริ่มพัฒนาตนเองจนเหมือนโลกของจริงพวกโนบิตะจึง เริ่มตรวจตราสภาพของโลก (ในโลกที่สร้างเอง) แต่ก็ยังมีปัญหาตรงที่บรรพบุรุษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์เลื้อยคลานยัง อาศัยอยู่ในทะเล พวกโดราเอมอนจึงได้ใช้ "รังสีเพิ่มลดวิวัฒนาการ" ช่วยให้วิวัฒนาการให้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าพวกเขาได้พัฒนาสัตว์จำพวกแมลงโดยไม่รู้ตัว ทำให้พวกแมลงวิวัฒนาการจนมีอารยธรรมคล้ายกับมนุษย์และเข้ามาป่วนเปี้ยนใน ประวัติศาสตร์ของเหล่ามนุษย์ โดราเอมอนและเหล่าผองเพื่อนจึงต้องมาแก้ไขกับประวัติศาสตร์อันผิดพลาดใน ครั้งนี้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1995 เป็นตอนที่ 16 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ผจญภัยสายกาแล็คซี่ (1996)

ภาพโปสเตอร์ ตอนผจญภัยสายกาแล็คซี่
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と銀河超特急; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Galactic Express
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ผจญภัยสายกาแล็คซี่ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโดราเอมอนได้ซื้อตั๋วท่องเที่ยวกาแล็กซี่ทางช้างเผือกจากโลกอนาคต โดยมีพาหนะเป็นรถไฟหัวจักรไอน้ำ(ยานอวกาศ) มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สวนสนุกและไปลงจอดที่สวนสนุกอวกาศ แห่งอนาคตที่มีชื่อว่า "ดรีมมาซูแลนด์" ที่นั่นมีเครื่องเล่นมากมายหลากหลายชนิดและมีหมู่ดาวบริวารต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เหล่าลูกค้าสามารถรับบทเป็นฮีโร่ได้ เช่น ดาวแห่งโลกตะวันตก ดาวนินจา ดาวเทพนิยาย ดาวไดโนเสาร์ ดาวมอนสเตอร์ เป็นต้น โดยแต่ละดวงดาวจะมีหุ่นยนต์คอยบริการซึ่งควบคุมโดยดาวเคราะกลางซึ่งเป็น ศูนย์กลาง แต่ท่ามกลางความสนุกพวกเหล่าร้ายอวกาศนาม "กาฝากอวกาศ" ได้มาสิงเจ้าหน้าที่สวนสนุกป่วนระบบคอมพิวเตอร์ทำให้เครือข่ายสวนสนุก วุ่นวายและควบคุมหุ่นยนต์ในแต่ละดวงดาวมาเป็นพวก โดยมีเป้าหมายที่จะยึดร่างกายของมนุษย์ให้ได้มากที่สุด โดราเอมอนและเหล่าผองเพื่อนจึงต้องหาทางป้องกันและช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก จากการสิงของพวกเหล่าร้ายนี้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1996 เป็นตอนที่ 17 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ตะลุยเมืองตุ๊กตาไขลาน (1997)

ภาพโปสเตอร์ ตอนตะลุยเมืองตุ๊กตาไขลาน
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太のねじ巻き都市冒険記; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Adventure in Clockwork City
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยเมืองตุ๊กตาไขลาน เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโดราเอมอนได้ไปยังงานประมูลดวงดาวแห่งโลกอนาคต เพื่อหวังจะได้รางวัลใหญ่แต่กลับพลาดได้รางวัลที่ระลึกแทน ซึ่งรางวัลจะเป็นกลุ่มดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี สร้างความเสียใจให้กับโนบิตะมาก แต่โนบิตะกลับสนใจและหวังที่จะสร้างฟาร์มส่วนตัว ทำให้ไปพบกับดาวที่มีความอุดมสมบูรณ์มีพืชพันธุ์และน้ำเหมือนกับโลกเพียงแต่ ไม่มีสัตว์เท่านั้น(ไปผิดดาว) โนบิตะจึงชวนเพื่อน ๆ มาสร้างเมืองตุ๊กตาไขลานโดย ให้พวกตุ๊กตาเป็นประชากรโดยอาศัย "ไขลานให้ชีวิต" จากโดราเอมอนให้ชีวิตแก่พวกตุ๊กตา ขณะที่บนโลกได้มีนักโทษแหกคุกฉายา "ไอ้เคราหมี" แอบเข้ามาบ้านโนบิตะและผ่านประตูไปไหนก็ได้ไปยังโลกไขลาน โดราเอมอนและเหล่าผองเพื่อนจึงต้องขับไล่โจรรายนี้ออกไปก่อนที่จะทำอะไรที่ ส่งผลร้ายต่อเมืองตุ๊กตาไขลาน
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1997 เป็นตอนที่ 18 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ผจญภัยเกาะมหาสมบัติ (1998)

ภาพโปสเตอร์ ตอนผจญภัยเกาะมหาสมบัติ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の南海大冒険; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's South Sea Adventure
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ผจญภัยเกาะมหาสมบัติ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะที่ต้องการออกผจญภัยตามล่าหาสมบัติในหมู่เกาะทะเลใต้ โดยอาศัยเครื่องมือของโดราเอมอนที่มีชื่อว่า "แผนที่ค้นหาขุมทรัพย์" ค้นหาสมบัติจนพบโนบิตะจึงได้ช่วยเพื่อน ๆ เออกเดินทางโดยใช้เรือยนต์เป็นพาหนะ แต่ทว่าในระหว่างการเดินทางพวกโนบิตะได้หลงในมิติเวลาและหลุดออกมาโผล่ใน ทะเลสมันศตวรรษที่ 17 สมัยโจรสลัดยัง เรืองอำนาจ เรือของพวกโนบิตะได้ชนกับเรือโจรสลัดจนเรือแตก ทุกคนกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง รู้สึกตัวอีกทีก็ถูกพวกโจรสลัดช่วยไว้ ยกเว้นโนบิตะ ทำให้พวกโดราเอมอนต่างเป็นกังวลและเป็นห่วง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากกระเป๋ามิติที่สี่ของ โดราเอมอนได้ถูกน้ำทะเลพัดหายไป พวกโดราเอมอนจึงต้องขอความช่วยเหลือพวกโจรสลัดที่มีเป้าหมายไปยังเกาะสมบัติ แห่งเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือหาโนบิตะที่ติดเกาะกลางทะเล
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1998 เป็นตอนที่ 19 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ตะลุยอวกาศ (1999)

ภาพโปสเตอร์ ตอนบันทึกท่องอวกาศ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の宇宙漂流記; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Adventure: Drifts in the Universe
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยอวกาศ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "ไรอัน" หน่วยอัศวินอวกาศ ผู้ของกองคาราวานท่องอวกาศ มีหน้าที่ในการค้นหาดาวดวงใหม่ที่เขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์ที่มนุษย์สามารถ อาศัยอยู่ได้ เพื่อทำการอพยพผู้คนของกองยานอวกาศอพยพมาอาศัยบนดาวดวงนั้น ซึ่งต่อมาไรอันก็ได้พบกับดวงดาวที่ต้องการนั้นก็คือโลก ขณะเดียวกันพวกโดราเอมอนก็ได้เล่นเกมอนาคตในรูปของเกมอวกาศ โดยต้องเข้าไปเล่นในยานขนาดเล็ก แต่บังเอิญโดราเอมอน โนบิตะ ชิซึกะ ได้เกมโอเวอร์ออกมาจากเกมก่อนปล่อยให้ไจแอนท์ ซึเนะโอะ เล่นเกมส์กันอยู่สองคน และบังเอิญถูกไรอันนำตัวไป พวกโดราเอมอนจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยซึเนะโอะกับไจแอนท์ ขณะเดียวกันทางกองทัพอิสระก็ได้จัดกำลังทหารเพื่อเตรียมการบุกโลกภายใต้แกน นำของ "อันกอร์ โมอา"
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1999 เป็นตอนที่ 20 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ตำนานสุริยกษัตริย์ (2000)

ภาพโปสเตอร์ ตอนตำนานสุริยกษัตริย์
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の太陽王伝説; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Legend of the Sun King
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตำนานสุริยกษัตริย์ เป็นเรื่องราวอันบังเอิญของโดราเอมอนและโนบิตะที่ต้องการเอาของวิเศษคืนจาก ใจแอน แต่เกิดพลาดท่าทำให้เครื่องขัดข้อง มันจึงย้อนเวลาไปยังดินแดน อาณาจักรมายานะ โนบิตะก็ได้พบกับเจ้าชาย ทีโอ ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกันในดินแดนแห่งนี้ เกิดปัญหาใหญ่ก็คือ เรดิน่า แม่มดชั่วร้ายที่เคยทำงานให้กับพระราชินี ก็ใช้เวทมนตร์สร้าง ให้เกิดปัญหาต่อมายานะ ทำให้ฝนไม่ตกและพระราชินีก็ทรงพระประชวรเพราะเวทมนตร์ของเรดิน่า ทีโอจึงจำเป็นต้องเรียนรู้โลกความจริง ทำให้ทีโอรู้จักความเป็นเพื่อนของโนบิตะที่มอบให้แก่กัน
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2000 เป็น ตอนที่ 21 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 2002 ซึ่งนับเป็น โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ที่เข้าฉายในประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 20 ปี นับจากที่เคยนำตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ และตอน โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ เข้ามาฉายในปี ค.ศ. 1982


โนบิตะและอัศวินแดนวิหค (2001)

ภาพโปสเตอร์ ตอน โนบิตะ และอัศวินแดนวิหค
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と翼の勇者たち; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Winged Braves
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะและอัศวินแดนวิหค เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับข่าวเกี่ยวกับนกหายไปคาดว่ามีมนุษย์วิหคมาพาไป ที่เพื่อน ๆ ทุกคนดู ทำให้เพื่อนทุกคนตะลึง โนบิตะเองก็ได้ดู ก็หันมาสนใจในการเป็นมนุษย์วิหค จึงทำปีกจำลองทดลองบินแต่ก็ไม่สำเร็จ ครั้งสุดท้ายก็บินได้เพราะโดราเอมอนพยุงโนบิตะโดยใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่ แต่แล้วประตูมิติก็พาให้มนุษย์นกตัวหนึ่งชื่อ กูซึเกะ ตกลงมาพร้อมกับเครื่องร่อนของเขา โนบิตะทำแผลจนเขาหายดี จึงหันมาซ่อมเครื่องร่อน เพื่อจะบินไปกลับยังโลก เบิร์ดโนเปีย ซึ่งเป็นโลกของนกอีกครั้ง แต่โชคร้ายซูเนโอะกับไจแอนท์ก็ติดกันไปด้วย(เกาะหางเครื่องร่อนไปเพราะอยาก จับกูซึเกะไปลงนิตยสารเพื่อให้ตัวเองดัง) ทำให้โดราเอมอนและโนบิตะตามไปยังโลกของนกแห่งนี้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2001 เป็นตอนที่ 22 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)


โนบิตะ ตะลุยอาณาจักรหุ่นยนต์ (2002)

ภาพโปสเตอร์ ตอน อาณาจักรหุ่นยนต์
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太とロボット王国; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Robot Kingdom
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะ ตะลุยอาณาจักรหุ่นยนต์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "โปโกะ" หุ่นยนต์ที่หนีจากการตามล่าของโครงการล้างสมองหุ่นยนต์ภายใต้การนำของราชินี "แจน" และราชครู "เดสต้า" แต่ได้หลงเข้าไปในมิติเวลาและหลุดออกมายังห้องของโนบิตะ พร้อมกับบรรดาหุ่นยนต์ 100 ตัวจากศตวรรษที่ 22 พร้อมกับความเสียหายอย่างหนัก จนโดราเอมอนเองก็ไม่สามารถรักษาหรือทำอะไรได้ หนทางเดียวที่สามารถช่วยเหลือเด็กคนนี้คือ พาโปโกะไปรักษาบนดาวบ้านเกิด โดยใช้ไทม์แมนชีนรุ่นปรับปรุงใหม่สืบหาห้วงเวลาที่โปโกะเคยผ่าน การผจญภัยครั้งใหม่จึงเริ่มต้นขึ้น
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2002 เป็นตอนที่ 23 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 กันยายน ปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) โดยใช้ชื่อตอนว่า " โนบิตะ ตะลุยอาณาจักรหุ่นยนต์"


โนบิตะ มหัศจรรย์ดินแดนแห่งสายลม (2003)

ภาพโปสเตอร์ ตอนมหัศจรรย์ลูกพระพาย
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太とふしぎ風使い; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Mysterious Wind Masters หรือ Nobita and the Wind Wizard
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะ มหัศจรรย์ดินแดนแห่งสายลม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "ฟูโกะ" ลูกพระพายที่ ฟักตัวออกมาจากไข่และถูกโนบิตะนำมาเลี้ยงเอาไว้ ลูกพระพายผู้ซึ่งถูก "อูรันด้า" หัวหน้าเผ่าอาราชิในอดีตตามล่าโดยอูรันด้าซึ่งอยู่ในสภาพวิญญาณ (เนื่องจากตายมาหลายพันปี) ได้เข้าสิงซึเนะโอะเพื่อทำการแก้แค้นด้วยการคืนชีพปีศาจร้ายนาม "มาฟูก้า" ขึ้นมาเพื่อทำลายล้างโลก โดยฟูโกะเองก็เป็นส่วนหนึ่งของปีศาจตัวนั้น พวกโนบิตะจึงได้ร่วมมือกับเผ่ากาเซ่เพื่อช่วยเหลือโลกให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ นี้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 2003 เป็นตอนที่ 24 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) โดยใช้ชื่อตอนว่า "โนบิตะ มหัศจรรย์ดินแดนแห่งสายลม "


โนบิตะ ท่องอาณาจักรโฮ่งเหมียว (2004)

ภาพโปสเตอร์ ตอน โนบิตะ ข้ามมิติสู่อาณาจักรโฮ่งเหมียว
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太のワンニャン時空伝; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Wannyan Space-Time Odyssey
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะ ท่องอาณาจักรโฮ่งเหมียว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะและโดราเอมอนได้เก็บสุนัขจรจัดที่ชื่อ "อิจิ" และแมวจรจัดมาเลี้ยงเพื่อรอดพ้นจากสายตาของแม่ ทั้งสองจึงพาอิจิพร้อมกับสุนัขและแมวจรจัดอีกหลายร้อยตัวไปยังยุคกว่า 300 ล้านปีก่อน พร้อมทั้งใช้ปืนเร่งรังสีวิวัฒนาการเพื่อให้สุนัขและแมวมีชีวิตอยู่รอดต่อไป ได้ จากนั้นจึงย้อนเวลามาสำรวจอีกครั้ง แต่เกิดอุบัติเหตุห้วงมิติผกผันขึ้นทำให้มายุคหลังจากนั้นพันปีและพบว่า เมืองของสุนัขและแมวนั้นมีวิวัฒนาการที่เหนือกว่ามนุษย์มาก แต่การมาคราวนี้พวกเขากลับต้องช่วยเหลือพลเมือง ๆ นี้ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือ "เนโกโจล่า"แมวจอมโลภที่พยายามจะสร้างไทม์แมนชีนไปยังโลกมนุษย์เพื่อแก้แค้น ให้กับบรรพบุรุษและพวกโดราเอมอนร่วมมือกับเหล่าสุนัขกลุ่มหนึ่ง
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 2004 เป็นตอนที่ 25 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ปี (พ.ศ. 2549) โดยใช้ชื่อตอนว่า "โนบิตะ ท่องอาณาจักรโฮ่งเหมียว"


ไดโนเสาร์ของโนบิตะ (2006)

ภาพตอนไดโนเสาร์ของโนบิตะ(2006)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の恐竜2006; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Dinosaur 2006 - The Movie หรือ Doraemon The Movie 2006
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะได้ค้นพบกับฟอสซิลไดโนเสาร์โดยบังเอิญ และจากนั้นเขาก็ใช้ผ้าคลุมกาลเวลาให้กลายเป็นไข่ที่ฟักตัวได้ ไม่นานนักไดโนเสาร์คอยางน่ารัก ๆ ก็ฟักออกมาแล้วตั้งชื่อให้ว่า พิสุเกะ โนบิตะก็ได้เลี้ยงดูมันจนเติบโต จนกระทั่งพึสุเกะตัวใหญ่เกิดกว่าที่จะดูแลได้ จนต้องตัดสินใจส่งกลับไปยังยุคของมัน แต่ทว่าดันส่งไปผิดท้องถิ่น โนบิตะจึงขอร้องโดราเอมอนและเพื่อน ๆ ให้ช่วยพามันกลับไปยังถิ่นฐานจริง ๆ ที่มันอยู่คือทะเลญี่ปุ่นโบราณ พร้อมกับการหลีกหนีการตามล่าของเศรษฐีชั่วร้ายจากโลกอนาคตที่ต้องการพิสุเกะ เพื่อนำไปค้าขายอย่างผิดกฎหมาย แถมยังต้องช่วยพิสุเกะปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ที่โหดร้านโดเดี่ยวให้ได้ อีกด้วย ทั้งห้าคนจะช่วยเหลือพิสุเกะได้หรือไม่ และการจากกันของโนบิตะกับพิสุเกะจะออกมาในรูปแบบใดกันแน่
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2006 เป็นตอนที่ 26 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ เป็นการนำ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ผจญภัยไดโนเสาร์ ในปี ค.ศ. 1980 กลับมาสร้างใหม่ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) โดยใช้ชื่อตอนว่า "ไดโนเสาร์ของโนบิตะ"


โนบิตะ ตะลุยแดนปีศาจ 7 ผู้วิเศษ (2007)

ภาพโปสเตอร์ ตอนตะลุยแดนปีศาจ (2007)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: 映画 ドラえもん のび太の新魔界大冒険~7人の魔法使い~; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's New Great Adventure into the Underworld ~ The Seven Magicians~ หรือ Doraemon The Magic 2007
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะ ตะลุยแดนปีศาจ 7 ผู้วิเศษ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโดราเอมอนและโนบิตะได้เก็บรูปปั้นประหลาดที่หน้าตา เหมือนเขาสองคนได้ และขณะนั้นโนบิตะคิดว่าถ้าใช้เวทมนตร์ได้ก็จะดี จึงได้ใช้ตู้โทรศัพท์ติ๊ต่างของโดราเอมอนเปลี่ยนเป็นโลกแห่งเวทมนตร์ซะเลย แต่ถึงกระนั้นในโลกได้เปลี่ยนเป็นโลกเวทมนตร์ไปและทุกคนสามารถใช้เวทมนตร์ ได้อย่างคล่องแคล่ว มีเพียงโนบิตะเท่านั้นที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซักกะอย่าง แล้วต่อมาโนบิตะก็ได้พบกับมิโยโกะ ก็ได้รู้เกี่ยวกับแผนคุกคามโลกของเหล่าปีศาจรูปปั้นประหลาดนั้นมีความเกี่ยว ข้องกับการคุกคามโลกในครั้งนี้หรือไม่ ทั้งโนบิตะและโดราเอม่อนจึงต้องการที่จะใช้ตู้ติ๊ต่างโทรไปบอกว่าให้โลกกลับ ไปเป็นเหมือนเดิม แต่ทว่าแม่ของโนบิตะได้ทำลายตู้ติ๊ต่างไปเสียแล้ว โดราเอม่อน โนบิตะและเพื่อนๆจึงต้องต่อสู้กับซาตานเตมาออง ในฐานะ"จอมเวททั้ง 7 หรือ 7 ผู้วิเศษ"
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2007เป็น ตอนที่ 27 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ เป็นการนำ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยแดนเวทมนตร์ ในปี ค.ศ. 1984 กลับมาสร้างใหม่ และเข้าฉายในประเทศไทยในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2551


โนบิตะกับตำนานยักษ์พฤกษา (2008)

ภาพโปสเตอร์ ตอน Doraemon the Future (2008)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と緑の巨人伝 ; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Green Giant Legend 2008 หรือ Doraemon The Future 2008
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะกับตำนานยักษ์พฤกษา นี้เริ่มต้นขึ้นจากการที่โนบิตะไปเก็บเอาต้นอ่อนจากภูเขาหลังโรงเรียนและใช้ ยาวิเศษของโดราเอมอนทำให้ต้นอ่อนเคลื่อนไหวและพูดเองได้เหมือนมนุษย์ โนบิตะตั้งชื่อให้ว่า "คีโบ" วันหนึ่งเมื่อทุกคนพากันไปที่ภูเขาหลังโรงเรียนจู่ๆก็มีน้ำวนยักษ์ปรากฏขึ้น มา แล้วก็ดูดพวกโนบิตะเข้าไปและพาพวกเขาไปยังโลกอันแสนประหลาดที่มีต้นไม้ยักษ์ แผ่กิ่งก้านสาขากว้างใหญ่ที่มีชื่อว่า "ดาวแห่งสีเขียว"ซึ่งมีพวกพืชที่มีวิวัฒนาการจนสามารถพูดได้เหมือน อย่างคีโบปกครองอยู่โดยมีเจ้าหญิงรีเรเป็นผู้นำและอำมาตย์ใหญ่ชีร่าเป็นผู้ วางแผนลับเพื่อปกป้องอนาคตของดาวสีเขียวเอาไว้เป็นผู้รับใช้อยู่เบื้องหลัง โนบิตะ โดราเอมอน และเพื่อนๆ จะทำเช่นไร? เพื่อกลับคืนสู่โลกเดิมของตน และตำนานคนยักษ์สีเขียวในตำนานคืออะไรกันแน่?...!
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 2008เป็น ตอนที่ 28 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทยในวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552(รอบพิเศษเข้าฉายวันที่25 ตุลาคม พ.ศ. 2552)


โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ (2009)

ภาพโปสเตอร์ ตอน The New Record of Nobita, Space blazer (2009)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: 新・のび太の宇宙開拓史 ; ชื่อภาษาอังกฤษ: The New Record of Nobita: Spaceblazer หรือ Doraemon The Hero 2009
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ 2009 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโรพอล เด็กชายผู้ท่องไปในอวกาศ วันหนึ่งเครื่องเกิดเสียระหว่างที่เดินทางกลับดาวบ้านเกิด เมื่อลองวาร์ป แล้ว ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างมิติ ที่เชื่อมโยงกับใต้เสื่อในห้องของโนบิตะ เมื่อหมดหนทางกลับบ้าน กลางดึกคืนนั้นเอง จามี่ สัตว์เลี้ยงของโรพอล ได้เปิดประตูข้ามมิติมาที่โลก จนเจอกับโนบิตะและโดราเอมอน โดราเอมอนจึงช่วยพากลับบ้าน แต่ทว่าบนดาวบ้านเกิดของโรพอลนั้น กลับมีเหล่าร้าย ผู้หมายยึดครองแร่ธาตุของดาวดวงนี้ไป โนบิตะและเพื่อน ๆ จึงต้องหาหนทาง ช่วยดาวดวงนี้ให้ได้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2009 เป็นตอนที่ 29 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ เป็นการนำ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ ในปี ค.ศ. 1981 กลับมาสร้างใหม่


สงครามเงือกใต้สมุทร (2010)

ภาพโปสเตอร์ ตอน Doraemon: Nobita's Great Merman Sea Battle (2010)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の人魚大海戦; ชื่อภาษาอังกฤษ: Doraemon: Nobita's Great Battle of the Mermaid King หรือ Doraemon The Legend 2010
โดราเอมอนฉบับภาพพยนตร์ ตอน โนบิตะ สงครามเงือกใต้สมุทร เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโนบิตะบอกว่าอยากเป็นนักดำน้ำ โดราเอมอนจึงใช้ของวิเศษทำให้เมืองจมลงสู่ก้นทะเล ในขณะที่กำลังว่ายน้ำอยู่กับฝูงปลาอย่างสนุกสนาน พวกโนบิตะก็ได้พบกับโซเฟีย เจ้าหญิงแห่งชนเผ่าเงือกที่ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในทะเลบนโลกตั้งแต่เมื่อ 5,000 ปีก่อน โซเฟียได้พาพวกโนบิตะลงไปยังเมืองใต้ทะเล พวกเขาได้สวมชุดเงือกและสนุกกับการผจญภัยใต้ท้องทะเล แต่ในขณะนั้นเองปลาไหลยักษ์ก็พุ่งเข้ามาจู่โจมพวกเขา แม้จะเอาชีวิตรอดมาได้ แต่ชิซุกะก็ถูกใครบางคนจับตัวไป หลังจากได้รู้เรื่องเกี่ยวกับดาบแห่งตำนานของชนเผ่าเงือกซึ่งเป็นสิ่งที่ชน เผ่าปลาชั่วร้ายต้องการจะครอบครอง พวกโนบิตะจึงตัดสินใจที่จะช่วยชนเผ่าเงือกต่อสู้เพื่อปกป้องดาบแห่งตำนานเอา ไว้
ภาพยนตร์ชุดนี้ จะออกฉายครั้งแรกในวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 2010 เป็นตอนที่ 30 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และจะเข้าฉายในประเทศไทยในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553 นี้


โนบิตะกับกองทัพสงครามหุ่นเหล็ก (2011)

??????(ไม่ทราบแน่ชัด , เป็นเรื่องใหม่ที่กำลังสร้าง??)


โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ ที่จะเข้าฉายในประเทศไทยปัจจุบัน!

โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ สงครามเงือกใต้สมุทร (2010)

14 ตุลาคม 2010 ทุกโรงภาพยนต์ไทย!
ภาพโปสเตอร์ ตอน Doraemon: Nobita's Great Merman Sea Battle (2010)